วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2560

ชิฟฟ่อนหน้าฝอยทอง

ชิฟฟ่อนหน้าฝอยทอง (สูตรคุณ Kachen Sky)

ส่วนผสมชิฟฟ่อนหน้าฝอยทอง (สูตรคุณ Kachen Sky)


1. แป้งเค้ก 85 กรัม
2. น้ำตาลทราย 70 กรัม
3. ไข่ขาว 140 กรัม
4. ไข่แดง 130 กรัม
5. น้ำมันรำข้าว 45 มิลลิลิตร
6. นมสด หรือนมข้นจืด 50 มิลลิลิตร
7. กลิ่นตามชอบ/ผงฟูตามชอบ
8. ฝอยทองหนาบาง ตามความชอบ

วิธีทำชิฟฟ่อนหน้าฝอยทอง (สูตรคุณ Kachen Sky)

1. ใส่ถุงมือให้เรียบร้อย ปูกระดาษไขที่ก้นพิมพ์ กดอัดฝอยทองให้แน่น ที่ไหนกดแล้วเป็นหลุมยุบ เติมฝอยทองให้แน่นเสมอกันเตรียมไว้
2. ผสมแป้ง นม ไข่แดง น้ำตาลครึ่งนึง (ที่เหลือเอาไปใส่ไข่ขาวที่ตี) น้ำมัน คนให้เข้ากัน
3. ตีไข่ขาวใส่น้ำตาล ตีให้ตั้งยอดอ่อนพอ
4. นำไข่ขาวที่ตีได้ไปผสมกับส่วนผสมข้อที่ 2 ที่ทำเตรียมไว้ ใช้พายคนให้เข้ากัน
5. เทลงในพิมพ์ที่อัดฝอยทองไว้ (ถ้าเทลงไปแล้วมีฟองอากาศ ให้ใช้ไม้จิ้มฟองอากาศทิ้ง) แล้วนำเข้าอบไฟบน-ล่าง 165 องศาเซลเซียส จนขนมสุก ย้ำว่าสุกเวลาเกินกว่า 25 นาทีแน่นอน เพราะแต่ละครั้งพิมพ์อบไม่เท่ากัน บอกเวลาตรงๆไม่ได้ ย้ำให้เช็คเอาว่าสุกเข้าใจนะ
6. อบเสร็จ อย่าเพิ่งคว่ำหน้าขนม ให้ขนมคลายตัว จะค่อยๆร่อนออกจากพิมพ์รอบวงกล่อน พอขอบล่อนแล้วคว่ำได้ ลอกกระดาษที่รองออก

ชีสทาร์ต - Bake Cheese Tart (สูตรคุณเยาว์ ‎Yaowapa)

ชีสทาร์ต - Bake Cheese Tart (สูตรคุณเยาว์ ‎Yaowapa) สูตรครีมชีสคัสตาร์ดง่ายๆ เราก็จะได้ทาร์ตชีสเยิ้มๆ ฟินๆ ไว้กินเล่น ทำได้ง่ายๆไม่ยาก จะทำขายทำทานเองก็ได้เลยค่ะ

ส่วนผสมและวิธีทำแป้งทาร์ต : สูตรแป้งทาร์ต สำหรับทำบราวนี่และทาร์ตพายต่างๆ (สูตรคุณแนตตี้ Nuchzalee) หรือจะใช้ทาร์ตสำเร็จรูปที่ขายตามแมคโครก็ได้ค่ะ

ส่วนผสมครีมชีสคัสตาร์ด

1. ครีมชีส (อุณหภูมิห้อง) 250 กรัม
2. วิปปิ้งครีมชนิดนมโคแท้ 150 กรัม
3. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ (เจ้าของสูตรใช้ยี่ห้อบัลแกเรีย กล่องสีน้ำเงิน) 1 กล่อง
4. เนยสดเค็ม 25 กรัม
5. น้ำตาลทราย 50 กรัม
6. นมสด 40 กรัม
7. แป้งข้าวโพด 7 กรัม
8. ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 1 ฟอง
9. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

วิธีทำครีมชีสคัสตาร์ด

1. ก่อนอื่นนำนมสด แป้งข้าวโพด คนให้เข้ากันแล้วพักไว้ก่อน
2. แล้วนำส่วนผสม ครีมชีส เนยสด วิปปิ้งครีม โยเกิร์ต น้ำตาลทราย ใส่อ่างผสม นำไปตุ๋นแล้วกวนตลอดจนส่วนผสมเนียนดียกลงจากเตา
3. ค่อยๆเทนมสดที่ผสมแป้งข้าวโพดลงไปทีละนิด ช่วงเทนมสดผสมแป้งข้าวโพดให้คนตลอดเวลาแป้งจะได้ไม่จับเป็นก้อน จากนั้นค่อยๆเทไข่ไก่ลงผสม คนให้เข้ากัน (ไข่ไก่ควรตีให้เข้ากันก่อน) คนไปเรื่อยๆ จนเข้ากันดี เติมกลิ่นวานิลลา
4. นำไปตุ๋นอีกรอบ คนจนเนื้อครีมเริ่มข้นขึ้นจึงยกลงคนต่ออีกสักพักให้ครีมคลายความร้อน
5. นำครีมชีสที่ได้ไปกรองผ่านตะแกรงตาถี่ เพื่อให้เนื้อครีมชีสเนียนละเอียด
6. เทครีมชีสที่กรองเสร็จแล้วใส่ถุงบีบ แล้วไปแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง (ของเราแช่ข้ามคืนกันเลยทีเดียว)
7. นำครีมชีสที่ได้มาบีบใส่ทาร์ต (พอดีใช้ทาร์ตสำเร็จรูปไม่ได้ทำถ้วยทาร์ตเอง) แล้วทาด้วยไข่แดง นำเข้าเตาอบ 175 องศา 12-15 นาที (แล้วแต่เตานะคะ)

บราวนี่หน้ากรอบ (สูตรคุณปูน Poonie)

บราวนี่หน้ากรอบ (สูตรคุณปูน Poonie) บราวนี่หน้ากรอบเนื้อหนึบเหมือนเดิม ใครอยากได้บราวนี่หน้ากรอบลุยเลยค่ะ

ส่วนผสมบราวนี่หน้ากรอบ (สูตรคุณปูน Poonie)


1. เนยจืด 85 กรัม
3. ดาร์คช็อคโกแลต 100 กรัม (ขอย้ำสูตรนี้ใช้ดาร์คช็อค 50-75% รสชาตจะพอดีไม่หวานนะคะ ใครใช้ช้อคคอมพาว ช้อคโคทติ้ง ลดน้ำตาลเอาเอง อย่าบ่นหวานค่ะ)
4. โกโก้ 30 กรัม
5. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 100 กรัม
6. ผงฟู 1/4 ช้อนชา
7. น้ำตาล 190 กรัม
8. ไข่ไก่เบอร์ 1 จำนวน 2 ฟอง
9. วนิลา 1 ช้อนชา
10. เกลือ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำบราวนี่หน้ากรอบ (สูตรคุณปูน Poonie)

1. อุ่นเตาอบ 200 องศาเซลเซียส เตรียมถาดขนาด 8*8 / 9*9 นิ้ว ปูกระดาษไขเตรียมไว้
2. ผสมแป้ง โกโก้ ผงฟู ให้เข้ากันพักไว้
3. ละลายดาร์คช็อคทิ้งไว้ให้อุ่น
4. ตีเนย น้ำตาล เกลือ ให้ขึ้นฟูเป็นครีมขาว ประมาณ 10 นาที
5. ใส่ไข่ทีละฟอง ตีให้เข้ากัน ใส่วนิลา
6. เทดาร์คช็อคที่ละลายไว้ ลงไปตีให้เข้ากัน
7. เติมแป้งลงไปตะล่อมให้เข้ากัน จนหมดเม็ดแป้ง
8. เทใส่ถาด เกลี่ยให้เรียบเสมอกัน นำเข้าอบ ไฟบนล่าง ประมาณ 20-22 นาที หรือจนกว่าจะสุก

เค้กมะนาว (สูตรคุณ Sky)

เค้กมะนาว (สูตรคุณ Kachen Sky) สามารถดัดแปลงให้เป็นเค้กลูกมะนาวได้

ส่วนผสมและวิธีทำเค้กมะนาว (สูตรคุณ Kachen Sky)

ส่วนผสมตัวเค้กเนย

1. แป้งเอนกประสงค์ 100 กรัม
2. ผงฟู 1/2 ช้อนชา
3. เนยจืด 120 กรัม
4. น้ำตาลทราย 75 กรัม
5. นมสด 1/4 ถ้วยตวง
6. ไข่ไก่ 180 กรัม (ตอกไข่ไก่แล้วนำไปชั่งตามสัดส่วนที่จะใช้)
7. เกลือ 2 กรัม
8. กลิ่น หากต้องการก็ใส่ได้ตามชอบ

วิธีทำตัวเค้กเนย
 
1. วอร์มเตาอบที่ 170 องศา ไฟบนล่างรอ
2. ร่อนแป้งและผงฟูพักไว้
3. ตีเนยด้วยหัวใบไม้ให้ขึ้นฟู ปาดขอบอ่างก้นอ่าง ตีจนเนียน ค่อยๆใส่น้ำตาลทรายลงไปแล้วตีต่อ หมั่นปาดขอบและก้นอ่าง
4. เติมไข่ไก่ที่ตีรวมกันลงไป ค่อยๆเท ตามด้วยนม เกลือ ตีให้ส่วนผสมเข้ากัน
5. ใส่แป้งที่ร่อนแล้วลงไป ตีความเร็วปานกลางจนเป็นเนื้อครีมเนียน หมั่นปาดขอบอ่างและก้นอ่าง ตีต่อ ประมาณ 5 นาที
6. นำเทใส่ถาดหรือพิมพ์ลูกส้ม แล้วยกเข้าอบ จนสุก เวลาโดยทั่วไป ประมาณ 20 นาทีขึ้นแล้วแต่ขนาดเตา

ส่วนผสมซอสมะนาว

1. น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
2. น้ำเลม่อน 4 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
4. เจลลาตินแผ่น 8 กรัม (เพิ่มลดได้ตามความเหมาะสม) แต่ละยี่ห้อไม่เหมือนกัน
5. สีผสมอาหารสีเหลืองมะนาว

*** รสชาติสามารถเพิ่ม ลด ได้ตามความชอบ ***
*** ขนาดภาชนะในการใส่อบ กะให้พอดีตามความหมาะสม ส่วนสูง ความกว้าง หรือรูปแบบที่เราอยากให้เป็นเอาเอง ไม่ได้กำหนดตายตัว ***

วิธีทำซอสมะนาว

1. ตั้งน้ำเปล่าให้เดือด ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้ละลาย ยกลงจากเตา
2. เติมน้ำเลมอน ชิมรสให้ได้ตามต้องการ รอให้ได้อุณหภูมิ 65 องศา ค่อยใส่เจลลาตินแผ่นที่แช่น้ำเย็นลงไปคนให้ละลายเข้ากัน
3. ทิ้งให้เย็นตัวจึงราดลงบนชิ้นเค้กที่ตัดเตรียมไว้ หรือราดลงบนเค้กลูกกลมๆ ตกแต่งหน้าเล็กน้อยตามความเหมาะสม

คำแนะนำ
เจลาตินแผ่น หรือเจลาตินผง ชั่งให้ได้น้ำหนักตามสูตรบอก เจลาตินก่อนใช้ต้องแช่ในน้ำเย็นหรือน้ำดื่มอุหภูมิห้องก็ไม่ผิดกฏ อย่าใช้น้ำร้อน รอให้อืดก่อนเอาไปใช้ สัดส่วนน้ำ ต่อ เจลาติน คือ 5:1 เช่น น้ำ 5 กรัม เจลาติน 1 กรัม ขั้นตอนการแช่เจลาติน เรียกว่า บลูมเจลาติน (ใช้ได้กับทุกสูตรที่ใช้เจลาติน)

เทคนิคการผสมสีให้ได้สีที่เราตองการเมื่อหาซื้อไม่ได้ ในแบบสีที่เราต้องการก็ผสมเอง เช่นสีเหลืองมะนาว ก็ใช้สีเหลืองเป็นหลัก หยดสีเขียวลงไป คนให้เขากัน เช็คสีบนกระดาษขาว ให้ได้สีที่เราต้องการก็พอ นำไปผสมอาหารขนมได้
แดง + น้ำเงิน ได้ม่วง
น้ำเงิน + เหลือง ได้เขียว
แดง + เหลือง ได้ส้ม
น้ำเงิน + เขียว ได้เขียวแก่

วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2560

เค้กบ้านฉัน (สูตรคุณ Sky) (สไตล์เค้กบ้านสวนเนยสด)

เค้กบ้านฉัน (สูตรคุณ Kachen Sky) หอมอร่อยแบบเค้กบ้านสวนมาเอง

ส่วนผสมเค้กบ้านฉัน (สูตรคุณ Kachen Sky)
 
1. แป้งเค้ก 80 กรัม
2. น้ำตาลทรายป่นให้ละเอียด 100 กรัม
3. ไข่ขาว 140 กรัม
4. ไข่แดง 120 กรัม
5. น้ำมันรำข้าว 40 มิลลิลิตร
6. นมสด หรือนมข้นจืด 40 มิลลิลิตร
7. กลิ่นตามชอบ
8. ผงฟูตามชอบ

วิธีทำเค้กบ้านฉัน (สูตรคุณ Kachen Sky)

1. ผสมไข่แดง น้ำตาลครึ่งนึง นม แป้ง น้ำมันผสมให้เข้ากัน
2. ตีไข่ขาวกับน้ำตาลอีกครึ่งให้เป็นเมอแรงค์ผสมกับส่วนแรกให้เข้ากัน
3. เทใส่ถาดอบไฟ 160 องศาเซลเซียส ไฟบนล่างจนสุก แช่เย็น
4. ตีเนยให้ฟูปาดเนย โรยน้ำตาลหั่นจบ (หรือ ตีเนยให้ฟูขาว น้ำตาลลงไปด้วย แล้วเอามาปาดหน้าเค้ก)

ขนมปังนมสดไส้มะพร้าวอ่อน

ขนมปังนมสดไส้มะพร้าวอ่อน

ส่วนผสมขนมปังนมสด

1. แป้งขนมปัง 1200 กรัม
2. แป้งบัวแดง 300 กรัม
3. ยีสต์ 3 ช้อนโต๊ะ
4. สารเสริม เคเอส 1 ช้อนโต๊ะ
5. เลชิเท็กช์ (ผงนุ่ม) 1 ช้อนโต๊ะ
6. นมสด 850 กรัม
7. น้ำตาลทราย 300 กรัม
8. เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
9. ไข่ไก่ 3 ฟอง
10. เนยสด หรือมาการีน 250 กรัม

วิธีทำขนมปังนมสด

1. ผสมแป้งทั้ง 2 ชนิดรวมกัน ตามด้วยยีสต์ สารเสริมเคเอสและผงนุ่มเข้าด้วยกัน ใส่อ่างผสม
2. ละลายเกลือ น้ำตาลทรายในนมสด และไข่ไก่ เทใส่ในอ่างแป้ง ตีผสมด้วยหัวตีตะขอความเร็วต่ำก่อน พอส่วนผสมรวมตัวกันและหมดผงแป้ง
3. เพิ่มความเร็วปานกลาง ใส่เนยสดหรือมาการีน ตีต่อจนเนียนได้ที่
4. นำออกมาตัดแบ่งน้ำหนัก ก้อนละ 40 -50 กรัม คลึงกลมพักไว้ 10 นาที
5. ใส่ไส้โดยการ จับขนมปังวางบนโต๊ะยึดให้ยาว ประมาณ 5 นิ้ว ใส่ไส้มะพร้าวตามยาว ปิดตะเข็บให้แน่น แล้วจับฟาดให้ยาวขึ้น จับสอดให้เป็นวงกลม วางในถาด ใช้กรรไกรตัดขริบให้เป็นรอย ห่างกัน 3 รอย พักให้ขึ้นประมาณ 80 % ก่อนนำเข้าอบให้ทาไข่ผสมนมข้นจืดที่กรองผ่านผ้าขาวบาง เพื่อไม่ให้เป็นก้อน ทาอย่างเบามือ ถ้าทาแรงขนมจะยุบ แต่งหน้าด้วยไส้มะพร้าวอีกที
6. นำอบไฟที่ 200 องศาเชลเชียส นานประมาณ 12-15 นาที หรือสุกเหลือง นำออกจากเตาร้อนๆให้รีบทาไข่ขาวที่ผสมน้ำและกรองแล้ว เท่านี้ขนมปังของคุณก็จะเต่งตึงไม่มีเหี่ยวย่น เพราะไข่ขาวจะช่วยเคลือบขนมไม่ให้แห้งด้วยค่ะ

ไส้มะพร้าวอ่อนกวน

ส่วนผสมไส้มะพร้าวอ่อนกวน

1. มะพร้าวอ่อนขูด 3000 กรัม
2. น้าสะอาด 1800 กรัม
3. เกลือ 15 กรัม
4. น้ำตาลทรายขาว 1450 กรัม
5. ใบเตยสด 1 ต้น
6. เนยสด 100 กรัม
7. แป้งกวนไส้ 300 กรัม
8. น้ำสำหรับละลายแป้งกวนไส้ 500 กรัม

วิธีทำไส้มะพร้าวอ่อนกวน

1. ผสมมะพร้าวอ่อน น้ำตาลทราย เกลือ น้ำสะอาด ใบเตยตัดเป็นท่อน รวมกันในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟแรงปานกลาง จนน้ำตาลทรายละลายหมด จึงใส่เนยสดคนผสมให้เข้ากัน จนเดือด
2. ละลายแป้งกวนไส้กับน้ำให้เข้ากัน เทใส่ในมะพร้าวที่กำลังเดือดอยู่ (ค่อยๆใส่พร้อมกับคนไปด้วยต้องรีบคนให้เข้ากันถ้าช้าไปแป้งจะจับตัวเป็นก้อน) คนต่อจนแป้งสุกใส และแห้งไม่มีน้ำ ปิดไฟทิ้งไว้ให้เย็น (ก่อนใส่แป้งกวนไส้ให้เก็บใบเตยออกก่อนค่ะ)
3 ตักใส่ถุงละ 1000 กรัม หรือจะใช้แต่ละครั้ง ถ้ายังไม่ใช้ให้เก็บแช่แข็งไว้ตลอด ถ้าจะใช้ให้นำออกมาทิ้งไว้ในอุหณภูมิห้องให้พออ่อนตัวจึงใช้ได้



วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2560

บัตเตอร์เค้ก 3 รส (เค้กเนย 3 รส) (สูตรคุณ Sky)

บัตเตอร์เค้ก 3 รส (เค้กเนย 3 รส) (สูตรคุณ Kachen Sky) เค้กเนยเนื้อไม่เนียนกริ๊บ เพราะไม่ได้ใส่สารเสริมใดๆ ไม่มีเนยขาว มาการีน โอวาเล็ต เอสพี เคเอส อีซี ฯลฯ

ข้อแนะนำ
** สูตรนี้ใช้ถาด กว้าง 7 นิ้ว ยาว 7 นิ้ว สูง 2 นิ้ว ได้ 1 ชิ้นใหญ่ๆ
*** วอร์มเตาอบที่ 160 องศา ไฟล่างรอเลย

ส่วนผสมบัตเตอร์เค้ก 3 รส (เค้กเนย 3 รส) (สูตรคุณ Kachen Sky)

1. เนยจืด 360 กรัม
2. น้ำตาลทราย 210 กรัม
3. ไข่ 190 กรัม (หรือเบอร์ 1 จำนวน 3 ฟอง)
4. แป้งเค้ก 250 กรัม
5. นมสดแบบไขมันเต็ม (ถ้าไม่มีก็นมข้นจืดได้) 120 กรัม
6. ผงฟู 7 กรัม (ขอไม่ใส่มันเฝื่อนๆลิ้นใครอยากใส่ก็ใส่นะ)
7. วานิลลาฝัก (ไม่มีก็ใส่กลิ่นแทน เอาตามชอบเท่าที่ควรเป็น)
8. เกลือ 6 กรัม ใส่ในนมคนให้ละลาย

ส่วนเพิ่มเติม

9. ผงโกโก้ 10 กรัม
10. ผงชาเขียว 10 กรัม

วิธีทำบัตเตอร์เค้ก 3 รส (เค้กเนย 3 รส) (สูตรคุณ Kachen Sky)

1. หั่นเนยให้เครื่องตีได้สะดวก เนยเย็น ไม่ต้องถึงกับแข็งนะ กดมืดแล้วผ่านฉลุย ไม่เอาแบบกดแล้วเนยแตกเป็นเสี่ยงๆ ถ้าอย่างนั้นก็หั่น แล้วเอาผ้าคลุมไว้ก่อน มาจับดูว่ามันเย็น แต่นิ่มแล้วตีเลย
2. ตีเนยที่สปีดสูง จนฟู ใส่ไข่ลงไป (ไข่ก็ตีๆให้รวมกันก่อนแบบจะทำไข่เจียว) หยอดไข่สลับกับน้ำตาลทราย จะมีเสียงเคร๊กๆๆๆๆ อย่าตกใจเสียงน้ำตาลทรายถูก้นภาชนะตีต่อสลับกับไข่ จนเนื้อเนียนฟู
3. ได้เนยที่ฟู แล้วก็นำแป้งใส่ที่ร่อนได้เลย ไม่ต้องร่อนรอเพราะไม่ได้ใส่ผงฟู กะปริมาณร่อนให้ได้ 3 รอบ สลับกับนม 2 รอบ ผสมด้วยสปีดต่ำจนเข้ากัน ปิดเครื่องใช้ไม้พาย ปาดริมที่แป้งเกาะๆอยู่ วนตามถนัดแล้วตะปบลงกลางอ่าง ทำจนเข้ากันดีพอ
4. แบ่งแป้งที่ผสมออกเป็นสามส่วน สองส่วนแรกลดน้ำหนักลง 20 กรัม เช่น 80/80/100 เพราะจะเพิ่ม น้ำหนัก โดยใส่ชาเขียวกับโกโก้ นำผงโกโก้และผงชาเขียว เติมน้ำหรือนมอุ่น 1 ช้อนโต๊ะ คนให้ละลาย เทลงไปผสมกับแป้งที่แบ่งไว้ให้เข้ากัน
5. เทใส่ถาดที่รองด้วยกระดาษไขก้นถาด (ถ้าใช้ถ้วยฟลอยก็ใส่ลงไปเลย) เทเป็นชั้น โดยอยากได้รสไหน สีไหนโชว์ เรียงเอาตามชอบ จะได้ประมาณ 3/4 ของถาดพอดี กระแทกไล่ฟองอากาศ อบประมาณ 30-40 นาทีหรือนานกว่านั้นจนสุกและสีสวยก็ใช้ได้ เช็คการสุกก็ได้โดยใช้ไม้จิ้มลงไปถ้าไม่มีอะไรติดขึ้นมาก็สุกแล้ว

บัตเตอร์เค้กรสกาแฟ (เค้กเนยกาแฟ) (สูตรคุณ Sky)

บัตเตอร์เค้กรสกาแฟ (เค้กเนยกาแฟ) (สูตรคุณ Kachen Sky) เค้กเนยกาแฟ เนื้อร่วนฉ่ำมาก หอมกาแฟมากมาย ตอนอบนะฟุ้งตลอบอบอวลไปทั้งบ้าน

ส่วนผสมบัตเตอร์เค้กรสกาแฟ (เค้กเนยกาแฟ) (สูตรคุณ
Kachen Sky)

1. แป้งเค้ก 150 กรัม
2. เนยเค็มเย็น 140 กรัม
3. น้ำตาล 100 กรัม
4. นมสด 70 กรัม
5. กาแฟผง 5 กรัม
6. ไข่ 140 กรัม (ไม่รวมเปลือก)
+++ ผงฟู / กลิ่น อยากใส่เอาตามสบาย

วิิธีทำบัตเตอร์เค้กรสกาแฟ (เค้กเนยกาแฟ) (สูตรคุณ Kachen Sky)

1. ตีเนย+น้ำตาล+ไข่ให้ฟู ใส่แป้ง สลับนมผสมกาแฟลงไปตีให้เข้ากันจนหมด แบ่งใส่กะปริมาณให้ได้ 3 รอบ
2. เมื่อเข้ากันดีแล้ว ก็เทใส่พิมพ์ ยกเข้าอบที่ไฟล่าง 165 องศาเซลเซียสจนสุก

สูตรแป้งทาร์ต สำหรับทำบราวนี่และทาร์ตพายต่างๆ (สูตรคุณแนตตี้ Nuchzalee)

สูตรแป้งทาร์ต สำหรับทำบราวนี่และทาร์ตพายต่างๆ (สูตรคุณแนตตี้ Nuchzalee)

สูตรนี้เฉลี่ยราคาเเค่ใบละ 1 บาท มีสองสูตรให้เลือกตามใจชอบ อร่อยกว่าแป้งทาร์ตเเมคโครแน่นอน เจ้าของสูตรคุณเเนตตี้คอนเฟริมว่าอร่อยกว่าค่ะ สูตรแป้งทาร์ตนี้ใช้พิมพ์ดอกจอกเล็ก 1 สูตรได้ประมาณ 100-120 อันค่ะ เวลาอบให้ใช้ไฟ 180-200 องศา อบ 15-20 นาที

ส่วนผสมแป้งทาร์ตสูตรที่ 1 (เป็นสูตรของย่าคุณเเนต - เนื้อกรอบ ร่วน กลวง เค็ม)

1. มาการีน 500 กรัม (แนะนำยี่ห้อเค้กท็อป)
2. แป้งตราว่าว 1 กิโลกรัม
3. เกลือหยิบมือ หรือ 1 ช้อนชา
4. น้ำเย็น ค่อยๆเทใส่เเละนวดจนกว่าเเป้งจะเนื้อเนียนเเละไม่ติดมือ

วิธีทำแป้งทาร์ตสูตรที่ 1

1. ตีมาการีน+เกลือจนนิ่ม
2. ค่อยๆทะยอยใส่เเป้งว่าวตีต่อสักพัก เเล้วใช้มือนวดต่อ
3. ถ้าเเป้งยังร่วน ค่อยๆเทน้ำเย็นนวดต่อ จนกว่าเเป้งจะไม่ติดมือค่ะ
4. ก่อนอบให้ใช้ส้อมเจาะรูที่เเป้งทาร์ตเเละเอาด้ามส้อมกดเบาๆตรงด้านข้างด้วย
5. ไม่ต้องทาเนยขาวหรืออะไรทั้งนั้น สูตรนี้มีน้ำมันจากเนยเยอะเวลาอบเสร็จเเค่คว่ำพิมพ์ลง ทาร์ตก็หลุดออกมาจากพิมพ์ง่ายดายค่ะ

ส่วนผสมแป้งทาร์ตสูตรที่ 2 (เป็นสูตรคุณแนตตี้ Nuchzalee เองค่ะ - เนื้อเเน่นเเข็ง กรอบ เค็ม)

1. มาการีน 500 กรัม (แนะนำยี่ห้อเค้กท็อป) หรือเนยสดเค็มเย็น
2. แป้งตราว่าว 1 กิโลกรัม
3. ไข่ไก่แช่เย็น (เบอร์3) 4 ฟอง (ถ้าฟองใหญ่ให้ลดปริมาณไข่)
4. เกลือหยิบมือ หรือ 1 ช้อนชา
5. น้ำเย็น ค่อยๆเทใส่เเละนวดจนกว่าเเป้งจะเนื้อเนียนเเละไม่ติดมือ

วิธีทำแป้งทาร์ตสูตรที่ 2

1. นำเนยหั่นเต๋า และตีเนย+เกลือจนนิ่ม
2. ใส่ไข่ทั้งฟองไม่ต้องเเยก ปั่นต่อสักพักไม่ต้องนาน
3. ค่อยๆทะยอยใส่เเป้งตีต่อสักพักให้เนื้อเเป้งเกาะกันเป็นเม็ดๆ เเล้วใช้มือนวดต่อ
4. ถ้าเเป้งยังร่วน ค่อยๆเทน้ำเย็นนวดต่อจนกว่าเเป้งจะไม่ติดมือค่ะ
5. ก่อนอบให้ใช้ส้อมเจาะรูที่เเป้งทาร์ตเเละเอาด้ามส้อมกดเบาๆตรงด้านข้างด้วย
6. ไม่ต้องทาเนยขาวหรืออะไรทั้งนั้น สูตรนี้มีน้ำมันจากเนยเยอะเวลาอบเสร็จเเค่คว่ำพิมพ์ลง ทาร์ตก็หลุดออกมาจากพิมพ์ง่ายดายค่ะ

วิธีทำขนมปังหลากหลายไส้ (สูตรคุณรัชกฤช)

ขนมปังหลากหลายไส้ (สูตรคุณรัชกฤช (ครูตุ้ม)) ดังนี้ ขนมปังไส้คัสตาร์ด ขนมปังเนยสด ขนมปังไส้ถั่วแดง ขนมปังไส้ทูน่า และขนมปังไส้หมูสับ ขนมปังเนื้อนุ่มๆ เหนียวเล็กน้อย สามารถนวดมือได้ แต่ส่วนผสมอาจจะแฉะเล็กน้อย ให้นวดไปเรื่อยๆ ประมาณ 30-35 นาที สำหรับนวดมือ หรือ 20-22 นาที สำหรับนวดเครื่อง ให้ขึ้นฟิล์ม ถ้าไม่ขึ้นฟิล์มอย่าไปซีเรียส ตัดน้ำหนักคลึงกลม แล้วขึ้นรูปได้เลย

***ข้อเสนอแนะ : ควรทำไส้ก่อนทำแป้ง***

ส่วนผสมขนมปัง (สูตรคุณรัชกฤช (ครูตุ้ม)) (สูตรขนมปังที่ให้สำหรับนวดมือ ถ้านวดด้วยเครื่องสามารถนำมาคูณ 4 ได้เลยค่ะ)

1. แป้งขนมปัง 250 กรัม
2. ยีสต์ 4 กรัม
3. น้ำตาลทราย 45 กรัม
4. เกลือ 4 กรัม
5. นมสดจืด 120-125 กรัม
6. ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 1 ฟอง
7. เนยสด 50 กรัม

วิธีทำขนมปัง (สูตรคุณรัชกฤช (ครูตุ้ม)) (สูตรขนมปังที่ให้สำหรับนวดมือ ถ้านวดด้วยเครื่องสามารถนำมาคูณ 4 ได้เลยค่ะ)

1. ผสมแป้งขนมปังกับยีสต์เข้าด้วยกัน เตรียมไว้
2. ผสมน้ำตาลทราย เกลือ นมสดจืด และไข่ไก่ โดยใช้ตะกร้อมือคนจนน้ำตาลทรายและเกลือละลาย
3. เทส่วนผสมข้อที่ 2 ลงไปในส่วนผสมของแป้ง นวดจนแป้งกินน้ำจนหมดและไม่เหลือผงแป้ง
4. ใส่เนยสดลงไปนวดต่อ ประมาณ 30-35 นาที
5. ตัดน้ำหนัก แล้วคลึงกลมขึ้นรูป หมักจนขนมขึ้นเกือบ 2 เท่า
6. อบด้วยไฟบนและไฟล่าง 180 °C จนกว่าจะสุก (ให้ดูสีขนมนะคะ)

วิธีการขึ้นรูปขนมปังไส้ต่างๆ (สูตรคุณรัชกฤช (ครูตุ้ม))

1. ขนมปังไส้คัสตาร์ด

- ตัดน้ำหนัก 40 กรัม
- คลึงกลมวางบนภาชนะ หมักให้ขึ้นเกือบ 2 เท่า แล้วอบขนมจนสุก
- พอขนมคลายร้อนใช้ตะเกียบ เจาะด้านบนแล้วใช้ถุงกรวยตัดปลายใส่หัวบีบเบอร์ 27 ตักไส้ใส่ถุงแล้วฉีดเข้าไปในขนมจนเต็ม

2. ขนมปังเนยสด

- ตัดน้ำหนักแป้งก้อนละ 20 กรัม จำนวน 3 ก้อน
- คลึงกลม แล้วขยายให้เป็นเส้น
- แล้วถักเป็นเปีย
- หมักให้ขนมขึ้นเกือบ 2 เท่า แล้วอบขนมจนสุก
- เมื่อขนมเย็น ทาหน้าขนมด้วยเนยสดละลาย หรือตีให้เนยเปลี่ยนสีเป็นสีครีมแล้วคลุกน้ำตาลทราย

3. ขนมปังไส้ถั่วแดง

- ตัดน้ำหนัก 50 กรัม ไส้ถั่วแดง 35 กรัม
- คลึงกลม แล้วขยายแป้งออก วางไส้ถั่วแดงห่อให้มิด
- ใช้ไม้คลึงรีดแป้งออก ให้บางใช้มีดคม ๆ กรีดตามแนวนอนถี่ ๆ พลิกกลับแล้วตลบมุม ม้วนเป็นท่อนยาวแล้วจับเป็นวงกลมให้สวยและวางใส่ภาชนะ
- หมักให้ขนมขึ้นเกือบ 2 เท่า จากนั้นอบจนสุก นำออกจากตู้อบ แล้วทาด้วยเนยสดละลาย

4. ขนมปังไส้ทูน่าและไส้หมูสับ

- ตัดน้ำหนักแป้ง 50 กรัม
- คลึงกลม จากนั้นขยายแป้งออกใส่ไส้แล้วห่อให้มิด วางลงบนภาชนะ
- หมักแป้งให้ขึ้นเกือบ 2 เท่า ใช้กรรไกรตัดเป็นเครื่องหมายบวก ( + ) บนหน้าขนม แล้วอัดมายองเนสเข้าไป ไส้ทูน่าตกแต่งด้วยต้นขึ้นฉ่าย ส่วนไส้หมูสับตกแต่งด้วยต้นหอมซอย
- นำเข้าตู้อบ อบจนสุก

สูตรไส้คัสตาร์ด

ส่วนผสมไส้คัสตาร์ด

1. น้ำสะอาด 450 กรัม
2. น้ำตาลทราย 120 กรัม
3. นอนแดรี่ ครีมเมอร์ 450 กรัม
4. ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 4 ฟอง
5. นมผง 90 กรัม
6. แป้งกวนไส้ 40 กรัม
7. เนยเค็ม 90 กรัม
8. วานิลลา 2 ช้อนชา

วิธีทำไส้คัสตาร์ด

1. คนน้ำสะอาดกับน้ำตาลทรายจนน้ำตาลทรายละลาย ตั้งไฟกลางจนเดือด
2. ผสมนอนแดรี่ ครีมเมอร์ ไข่ไก่ นมผง และแป้งกวนไส้ โดยใช้ตะกร้อมือคนจนส่วนผสมเนียน แล้วนำไปกรอง
3. เทส่วนผสมข้อที่ 2 ลงไปในส่วนผสมข้อที่ 1 คนจนส่วนผสมข้นและเดือด
4. เติมเนยสดและกลิ่นวานิลลา ลงไป
5. แล้วนำไปบีบใส่ขนม

สูตรไส้ทูน่า

ส่วนผสมไส้ทูน่า

1. ทูน่าในน้ำมัน 1 กระป๋อง (ยีให้ฟู)
2. แครอท หั่นเต๋าเล็กๆ 50 กรัม
3. ถั่วลันเตากระป๋อง 50 กรัม
4. หอมใหญ่ หั่นเต๋า 100 กรัม
5. พริกไทย 3 กรัม
6. น้ำตาลทราย 10 กรัม
7. เกลือ 3 กรัม
8. นมข้นจืด 100 กรัม
9. แป้งอเนกประสงค์ 20 กรัม
10. เนยสด 30 กรัม

วิธีทำไส้ทูน่า

1. ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง
2. นำเนยสดใส่ในกระทะ ใส่แป้งอเนกประสงค์และหอมใหญ่ ผัดจนหอม ใส่ทูน่า แครอท ถั่วลันเตา พริกไทย น้ำตาลทราย เกลือ และนมข้นจืด ผัดจนแห้ง
3. แล้วนำไปใส่ไส้ขนม

สูตรไส้หมูสับ

ส่วนผสมไส้หมูสับ

1. หมูสับ 500 กรัม
2. หอมใหญ่ หั่นเต๋า 100 กรัม
3. ต้นหอมซอย 10 กรัม
4. พริกไทย 3 กรัม
5. ซีอิ้วขาว 10 กรัม
6. น้ำมันหอย 10 กรัม
7. น้ำตาลทราย 10 กรัม
8. เกลือ 5 กรัม

วิธีทำไส้หมูสับ

- ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน นวดจนเหนียวแล้วนำไปแช่เย็น

สูตรมายองเนส

ส่วนผสมมายองเนส

1. ไข่ไก่ (ดิบ) 2 ฟอง
2. น้ำตาลทราย 150 กรัม
3. เกลือ 6 กรัม
4. มัสตาร์ด ตามชอบ
5. น้ำส้มสายชู 55 กรัม
6. น้ำมันพืช 450 กรัม

วิธีทำมายองเนส

1. ไข่ไก่ , น้ำตาลทราย , เกลือ และมัสตาร์ด ใส่โถตีใช้หัวตีตะกร้อ แล้วตีด้วยความเร็วสูงสุด
2. เติมน้ำส้มสายชู ตีต่อ 1 นาที (ด้วยความเร็วสูง)
3. เทน้ำมันเป็นสายเล็กๆลงไปจนหมด ตีต่ออีก 5 นาที
4. ใส่ถุงแช่เย็น ไว้ตกแต่งขนม

วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2560

วิธีปอกมะม่วงแต่งหน้าเค้กให้ไม่ดำ

วิธีปอกมะม่วงแต่งหน้าเค้กให้ไม่ดำ

เคล็ดไม่ลับสำหรับการแต่งหน้าเค้กมะม่วง ปอกเปลือกมะม่วงให้ลึกหน่อย อย่าให้ติดเปลือกรับรองไม่ดำ ไม่ต้องนำแช่น้ำเกลือหรือน้ำมะนาวให้เสียรสชาติค่ะ ลองนำไปทำกันดูนะคะ แต่งหน้ามะม่วงเสร็จให้รีบแช่เย็นให้ครีมเซ็ทตัวจะได้ไม่ร่วงค่ะ

ซอสมะม่วง (Mango Glaze)

ซอสมะม่วง (Mango Glaze) เอาไว้ราดหน้าเค้ก หรือจะใช้ราดหน้าเครปเค้กได้ค่ะ หรือกินกับไอติมก็อร่อยค่ะ

สูตรที่ 1

ส่วนผสมซอสมะม่วง (Mango Glaze)

1. มะม่วงสุก 1 ผล
2. น้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา
3. เจลาตินผง 1/2 ช้อนชา
4. น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
5. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ (เพิ่ม-ลดตามชอบ)

วิธีทำซอสมะม่วง (Mango Glaze)

1. นำน้ำเปล่าใส่เจลาตินผง คนให้เข้ากัน พักไว้ 5 นาที แล้วนำเข้าไมโครเวฟ 10 วิ นำออกมาคนให้ละลาย
2. ปอกมะม่วงเตรียมไว้ในโถปั่น ใส่น้ำมะนาวลงไป ตามด้วยเจลาตินที่ละลายแล้ว น้ำตาลทราย ปั่นให้เข้ากัน นำไปราดเค้กได้ตามชอบ แช่ตู้เย็นเพื่อให้เซ็ตตัวประมาณ 4 ชั่วโมงค่ะ

สูตรที่ 2
 
ส่วนผสมเกลซมะม่วง (ซอสมะม่วง) 
 
1. เนื้อมะม่วงสุกบด 100 กรัม
2. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำสะอาด 3 ช้อนโต๊ะ
4. เจลาติน 1 แผ่นเล็ก หรือ 1/4 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำเกลซมะม่วง (ซอสมะม่วง) 
 
1. ผสมเนื้อมะม่วงสุก น้ำตาลทราย น้ำสะอาดเจ้าด้วยกัน นำขึ้นตั้งไฟอ่อน คนให้เข้ากันจนเริ่มมีฟอง
2. ใส่เจลาติน ลงไปคนให้ละลายเข้ากัน ปิดไฟ พักให้อุ่นค่อนไปทางเย็น ใช้ราดหน้าเค้ก

มูสเค้กมะม่วง (Mango Mousse Cake)

มูสเค้กมะม่วง (Mango Mousse Cake) หวาน หอม อร่อย เย็นชื่นใจ เหมาะกับอากาศร้อนๆจริงๆ ค่ะ


ส่วนผสมและวิธีทำมูสเค้กมะม่วง (Mango Mousse Cake)

ส่วนผสมตัวเค้ก (สำหรับสปริงฟอร์มขนาด 18 ซม. 2 พิมพ์)

1. แป้งเค้ก 50 กรัม
2. นมผง 1 ชต.
3. ผงฟู 1/4 ชช.
4. ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 2 ฟอง
5. เกลือป่น 1/4 ชช.
6. น้ำตาลทราย 40 กรัม
7. ผิวมะนาวขูด 1 ชช.
8. น้ำมันพืช 1 ชต.
9. น้ำตาลวานิลา 1/2 ซอง (ประมาณ 4 กรัม หรือหากไม่มีก็ใช้วานิลาเอ๊กซ์แทรค 1/2 ชช.แทนค่ะ)

วิธีทำตัวเค้ก

1. เตรียมพิมพ์ขนาด 18 ซม. 2 พิมพ์ ปูกระดาษไขรองพิมพ์ไว้ (หากไม่มีพิมพ์ขนาดนี้ก็ใช้วิธีตัดกระดาษไขเป็นวงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 18 ซม. 2 แผ่น แล้ว วางบนถาดอบไว้ค่ะ) อุ่นเตาอบไว้ที่ 190 องศาเซลเซียส
2. ร่อนแป้ง นมผง และผงฟูรวมกัน แยกไข่ขาวและไข่แดงออกจากกัน พักไว้ก่อนค่ะ
3. ใส่เกลือป่นในไข่ขาวแล้วตีด้วยความเร็วต่ำ พอเริ่มฟู เปลี่ยนเป็นความเร็วสูงแล้วใส่น้ำตาลวานิลาลงไป (หากไม่มีน้ำตาลวานิลาก็แบ่งน้ำตาลทรายสัก 10 กรัม มาตีกับไข่ขาวค่ะ) ตีจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อนและมีฟองละเอียดมาก พักไว้
4. หันมาตีไข่แดงบ้าง โดยนำไข่แดงและผิวมะนาวใส่อ่างผสม ตีสัก 30 วินาที แล้วจึงค่อยๆใส่น้ำตาลทรายลงไปตีรวมกันด้วยความเร็วสูง ตามด้วยน้ำมันพืช (และวานิลาเอ๊กซ์แทร็ค) ตีไข่แดงพอข้นก็หยุด แล้วนำไข่ขาวที่ตีไว้มาตะล่อมเบามือให้เข้ากัน
5. ร่อนส่วนผสมแป้งใส่อ่างไข่ ตะล่อมให้เข้ากันไม่เหลือแป้งเป็นเม็ด แต่ห้ามคนนานนะคะ แบ่งแป้งใส่สัก 3 ครั้งจะได้ผสมได้ง่าย
6. เมื่อผสมเข้ากันดีแล้วก็เทส่วนผสมใส่ถุงบีบหรือถุงพลาสติกตัดปลายถุงแล้วบีบส่วนผสมใส่พิมพ์ทั้งสองพิมพ์ โดยบีบเป็นทางยาว ให้แต่ละเส้นห่างกันประมาณ 3 มล. นะคะ จากนั้นนำเข้าอบประมาณ 8 - 10 นาทีจนสุก แล้วนำออกจากเตา พักบนตะแกรงจนเย็นอุณหภูมิห้อง พอเย็นแล้วนำเค้ก 1 แผ่นวางรองก้นพิมพ์ ครอบสปริงฟอร์มไว้ด้วยค่ะ

ส่วนผสมมูสเค้ก

1. มะม่วงสุกบดละเอียด 200 กรัม (ใครชอบแบบเนียนก็กรองด้วยนะคะ ครั้งนี้เราไม่ได้กรองค่ะ)
2. น้ำมะนาว 1 ชต.
3. ครีมชีส 100 กรัม (เราใช้ quark ค่ะ)
4. น้ำตาลทราย 50 กรัม
5. เจลาติน 4 แผ่น (หรือชนิดผง 6 กรัม)
6. วิปปิ้งครีม 150 กรัม

วิธีทำมูสเค้ก

1. นำครีมชีสใส่ชามอ่าง เติมน้ำมะนาวกับน้ำตาลทรายลงไป ใช้ตะกร้อมือคนให้ส่วนผสมเข้ากันและเนียนดี พักไว้ก่อน
2. แช่เจลาตินในน้ำเย็นประมาณ 10 นาที จนนิ่ม ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วเทน้ำเย็นออก เติมน้ำร้อนประมาณ 2-3 ชต. ลงไปแล้วคนจนเจลาตินละลายหมด แล้วเทใส่อ่างครีมชีส คนให้เข้ากันค่ะ
3. จากนั้นก็ตีวิปปิ้งครีมจนตั้งยอด แล้วนำมาผสมให้เข้ากับส่วนครีมชีส ใส่มะม่วงบดลงไปคนให้เข้ากัน เทครึ่งหนึ่งของมูสลงบนตัวเค้กที่วางรองพิมพ์ไว้ แล้ววางเค้กอีกแผ่นทับบนมูส ก่อนเทมูสส่วนที่เหลือลงในพิมพ์จนหมด เกลี่ยให้เรียบ แช่เย็นไว้ 1 ชม. ก่อนทำเจลลี่ราดหน้าค่ะ (ในส่วนของชั้นมูสสามารถหั่นเนื้อมะม่วงสุกใส่ลงไปด้วยก็ได้นะคะ)

ส่วนผสมเจลลี่มะม่วง

1. มะม่วงสุกบดละเอียด 100 มล.(ใครชอบแบบเนียนก็กรองด้วยนะคะ ครั้งนี้เราไม่ได้กรองค่ะ)
2. น้ำส้มคั้น 50 มล.
3. น้ำตาลทราย 15 กรัม
4. เจลาติน 2แผ่น (หรือชนิดผง 3 กรัม)
5. ผลไม้สำหรับแต่งหน้าตามชอบ

วิธีทำเจลลี่มะม่วง

นำเจลาตินแช่น้ำเย็นจนนิ่มแล้วฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย นำมะม่วงบดและน้ำส้มคั้นใส่หม้อ เติมน้ำตาลทรายลงไปคนให้เข้ากัน นำขึ้นตั้งไฟพอร้อนก็ปิดไฟ ใส่เจลาตินลงไปคนจนละลายหมด พักพอเย็นหน่อยก็นำไปราดหน้ามูส แช่เย็นต่ออีกอย่างน้อย 6 ชม. ก่อนเอามูสออกจากพิมพ์ ตกแต่งด้วยผลไม้ตามชอบค่ะ

หลังจากแช่เย็นจนมูสเค้กมะม่วงอยู่ตัวดีแล้วก็จัดการตัด ใช้มีดบางๆ แช่น้ำอุ่นแล้วเช็ดให้แห้ง ตัดฉับลงไปเลยค่ะ ก่อนจะตัดอีกด้านก็อย่าลืมทำเหมือนเดิมคือนำมีดแช่น้ำอุ่น เช็ดแล้วก็ตัด จะได้ตัดได้สวยๆ นะคะ

เค้กมะม่วงครีมสด

เค้กมะม่วงครีมสด (สูตรแม่ม่อน) จะทำกินก็ได้ทำขายก็ดีนะคะ ตัวเนื้อเค้กใช้เนื้อสปันจ์ค่ะ ดัดแปลงจากสูตรสปันจ์ของคุณแหม่ม tiara

ส่วนผสมเค้กมะม่วงครีมสด (สูตรแม่ม่อน) 

มะม่วงสุกหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า

เคล็ดไม่ลับสำหรับการแต่งหน้าเค้กมะม่วงนะคะ ปอกเปลือกมะม่วงให้ลึกหน่อย อย่าให้ติดเปลือกรับรองไม่ดำ ไม่ต้องนำแช่น้ำเกลือหรือน้ำมะนาวให้เสียรสชาติค่ะ ลองนำไปทำกันดูนะคะ แต่งหน้ามะม่วงเสร็จให้รีบแช่เย็นให้ครีมเซ็ทตัวจะได้ไม่ร่วงค่ะ

ตัวเนื้อสปันจ์

1. แป้งเค้ก 100 กรัม
2. ไข่เบอร์ 0 จำนวน 3 ฟอง
3. ผงฟู 1 ช้อนชา
4. น้ำตาลทราย 100 กรัม
5. นมสดอุ่น 80 กรัม
6. เกลือ 1/4 ช้อนชา
7. เอสพี 10 กรัม
8. เนยสดเค็ม 80 กรัม

ครีมสด

1. วิปครีม 500 กรัม
2. น้ำตาลทราย 50 กรัม

น้ำราดกะทิ (สำหรับราดหน้าเค้กมะม่วงครีมสด)

1. กะทิ 200 กรัม
2. น้ำตาลทราย 60 กรัม
3. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
4. แป้งข้าวโพด 10 กรัม

วิธีทำเค้กมะม่วงครีมสด (สูตรแม่ม่อน)

1. วอร์มเตาอบไฟบน-ล่าง 180 องศา
2. ร่อนแป้งและผงฟูรวมกัน พักไว้
3. ตีไข่, น้ำตาล, เอสพี จนส่วนผสมฟูข้นเป็นสีขาว
4. เทนมสดอุ่นลงไปตีต่อประมาณ 2 นาที ส่วนผสมจะเหลวขึ้นเล็กน้อย
5. ใส่แป้งตีด้วยความเร็วต่ำ 1 นาที แล้วปรับเป็นความเร็วกลางประมาณ 5 นาที ปาดอ่าง
6. ละลายเนยพออุ่นๆ แล้วค่อยๆเทใส่ส่วนผสม ตีจนส่วนสมเข้ากันกับเนย ปาดอ่างให้ทั่ว
7. ตักส่วนผสมใส่พิมพ์ 6301 ครึ่งพิมพ์ เข้าอบไฟบน-ล่าง 18 นาที
8. เค้กสุกเอาออกจากเตา จับถาดกระแทกกับโต๊ะ 1-2 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยให้เค้กไม่หด พักไว้ให้เค้กเย็น
9. ระหว่างรอเค้กเย็นมาทำน้ำกะทิรอเลยค่ะ ใส่ส่วนผสมทุกอย่างในหม้อ คนจนแป้งละลายดี ยกหม้อตั้งไฟกลาง คนตลอดจนส่วนผสมข้น ยกลงพักไว้ให้เย็น
10. ตีส่วนผสมวิปครีมกับน้ำตาลจนตั้งยอดแข็ง แล้วตักใส่ถุงบีบ แล้วบีบใส่ถ้วยเค้กจนเต็มหน้า จากนั้นหั่นมะม่วงสุกเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า จัดวางให้สวยงามแล้วตักน้ำกะทิใส่ถุงบีบ บีบราดมะม่วง ตกแต่งด้วยใบแก้วหรือสะระแหน่ให้สวยงาม

วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560

ขนมปังไส้แครนเบอร์รี่ครีมชีส (ขนมปังนวดมือ สูตรคุณรัชกฤช)

ขนมปังไส้แครนเบอร์รี่ครีมชีส (ขนมปังนวดมือ สูตรคุณรัชกฤช)

สูตรขนมปังที่ดีทุกสูตรนวดมือได้หมด เทคนิคการนวดใช้มือเพียงข้างเดียว แล้วนวดบ้างซัดบ้าง ประมาณ 25 – 30 นาทีก็ใช้ได้ การทำขนมปังขั้นตอนที่สำคัญ คือ การคลึงกลม ลองพยายามทำกันดู
**** ในกรณีมีเครื่องนวด คูณ 4 ได้เลย ****

ส่วนผสมขนมปังไส้แครนเบอร์รี่ครีมชีส (ขนมปังนวดมือ สูตรคุณรัชกฤช)

ตัวขนมปัง

1. แป้งขนมปัง 250 กรัม
2. ยีสต์ (หวาน) 5 กรัม
3. ไข่แดง 3 ฟอง
4. น้ำเย็น 75 กรัม
5. น้ำตาลทราย 45 กรัม
6. เกลือ 4 กรัม
7. นอนแดรี่ ครีมเมอร์ 50 กรัม
8. เนยสดจืด 40 กรัม

ไส้แครนเบอร์รี่ครีมชีส

1. ครีมชีส 125 กรัม
2. น้ำตาลทราย 25 กรัม
3. แครนเบอร์รี่ 75 กรัม (แช่น้ำร้อน 5 นาที แล้วสรงขึ้นให้หมาด)

วิธีทำขนมปังไส้แครนเบอร์รี่ครีมชีส (ขนมปังนวดมือ สูตรคุณรัชกฤช)

ตัวขนมปัง

1. นำแป้งขนมปังและยีสต์ (หวาน) ผสมเข้าด้วยกัน
2. ผสมน้ำเย็น , นอนแดรี่ ครีมเมอร์ , ไข่แดง , น้ำตาลทราย และเกลือ ใช้ตะกร้อมือคนจนน้ำตาลและเกลือละลาย
3. เทส่วนผสมข้อ 2 ลงไปในส่วนผสมของแป้ง ใช้มือนวดจนแป้งดูดน้ำหมด จึงเติมเนยสดลงไป นวดจนแป้งเนียน ใช้เวลาประมาณ 25 – 30 นาที
4. เช็คแป้งด้วยการตัดมานิดหน่อยแล้วขึงเป็นแผ่นฟิล์มบางๆ ไม่มีการฉีกขาด ถือว่าใช้ได้แล้ว
5. ตัดน้ำหนักแป้ง 40 กรัม คลึงกลมจนหมด
6. นำแป้งที่คลึงกลมมาขยายเป็นแผ่น แล้วห่อไส้แครนเบอร์รี่ครีมชีสวางใส่พิมพ์ตามต้องการจนหมด
7. หมักแป้งด้วยการคลุมแผ่นพลาสติก ให้แป้งขึ้นเกือบ 2 เท่า ประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วแต่อุณหภูมิของแต่ละที่ ถ้าอากาศหนาวหมักเวลาให้ยาวได้อีกนิด ถ้าอากาศร้อนหมักเวลาให้สั้นลง
8. วอร์มเตา 180 °C แล้วอบไฟบนและไฟล่างประมาณ 15 – 18 นาที
9. เมื่อขนมสุก ให้ทาหน้าขนมปังด้วยเนยสด

ไส้แครนเบอร์รี่ครีมชีส

1. ครีมชีส (อ่อนตัว) ใช้ตะกร้อมือคน ใช้พายช่วยด้วย
2. เติมน้ำตาลทราย และแครนเบอร์รี่ คลุกให้เข้ากัน แล้วนำไปห่อกับแป้งได้เลย

วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2560

ซอสสตรอเบอรี่ (สูตรคุณ Jidapa)

ซอสสตรอเบอรี่ (สูตรคุณ Jidapa) เอาไว้ราดหน้าเค้ก หรือจะปั่นใช้ราดหน้าเครปเค้กได้ค่ะ หรือกินกับไอติมก็อร่อยค่ะ

ส่วนผสมซอสสตรอเบอรี่ (สูตรคุณ Jidapa)

1. สตรอเบอรี่ แช่แข็ง 1 กิโลกรัม (ซื้อที่แมคโคร)
2. น้ำตาลทราย 450 กรัม
3. น้ำเปล่า 500 กรัม
4. แป้งกวนไส้ตราดาว 80 กรัม
5. สีแดงสตรอเบอรี่

ลักษณะของซอสที่ได้จะข้นๆหน่อยค่ะ ถ้าใครอยากให้ซอสข้นกว่านี้ก็เพิ่มแป้งกวนไส้ ไม่ก็ลดน้ำให้น้อยลงค่ะ

วิธีทำซอสสตรอเบอรี่ (สูตรคุณ Jidapa)

1. นำสตรอเบอรี่แช่แข็ง เทใส่ภาชนะ วางคลายความเย็นไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง จะมีน้ำสตรอเบอรี่ ออกมาก็ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องทิ้ง
2. เทน้ำเปล่าใส่หม้อ ตามด้วยน้ำตาลทราย
3. ตวงแป้งกวนไส้ใส่ถ้วยไว้ แบ่งน้ำจากในหม้อที่ผสมน้ำตาลไว้ มาใส่ในถ้วยแป้งกวนไส้สัก 1/2 ถ้วยตวงค่ะ คนให้แป้งละลายไม่จับเป็นก้อน เทลงหม้อน้ำตาลตามเดิม
4. ใส่สีแดงสตรอเบอรี่ตามชอบ
5. นำหม้อน้ำตาลตั้งไฟอ่อนปานกลางค่ะ คนด้วยตะกร้อมือตลอด จนแป้งเริ่มข้นและเป็นรอยตะกร้อมือ
6. เทสตรอเบอรี่ที่เราวางเตรียมไว้ลงไปเลย ใช้ทัพพีคนให้เข้ากันค่ะ ปล่อยให้ซอสสตรอเบอรี่เดือดปุดๆ ขึ้นนิดนึงค่ะ แล้วใช้ทัพพีช้อนซอสด้านล่างขึ้นมาด้านบนบ้าง ให้ซอสเดือดอีกครั้งนึง ปิดเตา ยกหม้อลงแช่ในกะละมังที่รองน้ำไว้ค่ะ จะช่วยให้ซอสคลายความร้อนเร็วขึ้น ลูกสตรอเบอรี่ก็จะไม่เละมากค่ะ
7. รอให้ซอสสตรอเบอรี่เย็นสนิทก่อน แล้วค่อยเก็บใส่ภาชนะ แช่ตู้เย็นได้เลยค่า (ซอสอยู่ในช่องแช่ธรรมดาได้ประมาณ 1-2 อาทิตย์นะคะ)

** เราแนะนำว่าอย่ากวนสตรอเบอรี่บ่อยค่ะ อาจทำให้เนื้อสตรอเบอรี่เละไม่สวยงาม **

เครปเค้ก (สูตรคุณ Nutsarin)

เครปเค้ก (สูตรคุณ Nutsarin) สูตรนี้ได้ 1 ก้อน ขนาด 3 ปอนด์ ประมาณ 30 แผ่น และสูตรนี้ยังใช้ทำเครปโรลเย็นได้ด้วย

** สูตรนี้จะพักแป้งหรือไม่พักก็ได้นะคะ สำหรับใครที่พัก เวลานำออกจากตู้เย็น ทิ้งให้คลายเย็นสักนิด แล้วคนให้แป้งเข้ากันก่อน ถ้านำออกมาทำเลย ด้านบนผิวหน้าเค้าจะเป็นก้อนๆ แข็งๆ จากเนยนะคะ **


อุปกรณ์ที่ใช้ทำเครปเค้ก (สูตรคุณ Nutsarin)

1. กระทะทอดเครปขนาด 24 cm. หรือ 26 cm.
2. กระบวยไว้ตักแป้งเครป หรือจะใช้ถ้วยตวงก็ได้ ขนาด 1/4 ถ้วยตวง หรือ 1/3 ถ้วยตวง ตามความชอบหนา ชอบบาง (เราใช้กระบวยไม่ใหญ่มาก 1 กระบวย / 1 แผ่น)

ส่วนผสมเครปเค้ก (สูตรคุณ Nutsarin)

1. แป้งเค้ก 225 กรัม
2. น้ำตาลทราย 120 กรัม
3. ไข่ไก่ 8 ฟอง
4. นมสด 600 กรัม
5. เนยละลาย 120 กรัม
6. เกลือ 1/4 ช้อนชา
7. กลิ่น 1 ช้อนชา (ทำรสไหน ใช้กลิ่นนั้น)

วิธีทำเครปเค้ก (สูตรคุณ Nutsarin)

1. ร่อนแป้งและเกลือให้เข้ากัน พักไว้
2. ตีไข่ + น้ำตาลทราย พอให้น้ำตาลทรายละลาย
3. ใส่แป้ง สลับนม ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน ใส่จนแป้งกับนมหมด และคนจนแป้งไม่เป็นเม็ด
4. ใส่กลิ่น แล้วใส่เนยละลาย คนให้เข้ากัน
5. กรองผ่านกระชอนตาถี่ 1 รอบ สามารถแบ่งผสมสีได้ตามต้องการ

เทคนิควิธีการทอดเครปเค้ก

1. ทาเนยขาวบางๆที่กระทะ
2. ไฟต้องอ่อน กระทะต้องไม่ร้อนจนเกินไป เวลาเทแป้งจะได้กลิ้งง่ายๆ
3. หลังจากทำแผ่นแรกเสร็จ พักกระทะสักแปบ แล้วค่อยเทแป้งลงไปกลิ้งใหม่ (ประมาณ 10 วิ)
4. ประกอบเสร็จ ควรแช่เย็นสัก 3 ชม. หรือแช่ข้ามคืนก็ได้
5. แป้งเราทอดด้านเดียวนะคะ ถ้าสุกเค้าจะมีฟองอากาศดันขึ้นมา ก็คว่ำออกจากกระทะได้เลยค่ะ

เทคนิควิธีปาดวิปครีมให้เรียบ ไม่หลังเต่า

1. วิปต้องเย็น โถ หัวตี ต้องเย็น เวลาตีวิป วิปจะขึ้นดี ตีให้เค้าขึ้นเหมือนโฟมเลยค่ะ ผิวเค้าจะเงาๆ สังเกตเวลายกหัวตีขึ้นมา เค้าจะปลายแหลม ตั้งตรง ไม่โค้งงอนะคะ (อย่าตีแข็งเกินนะคะ เดี๋ยวปาดยาก)
2. ใช้วิปไม่ต้องเยอะมาก โปะลงตรงกลางแผ่นแล้วพยามยามปาดเกลี่ยออกมาริมๆ แผ่น ปาดให้ทั่ว ดูให้ครีมเสมอกัน เครปที่ได้ออกมาก็จะไม่เป็นหลังเต่า



** ส่วนวิปปิ้งครีมเราแนะนำให้ใช้แบบ non-dairy เพราะทำจากไขมันพืช ให้ความคงตัวกว่าวิปที่ทำจากนมโค (อ่านได้จากฉลากข้างกล่อง) ส่วนตัวเราใช้ยี่ห้อซันวิป (sunwhip) เพราะอยู่ตัว ทนต่ออากาศร้อนๆได้ดี (วิปไม่ต้องใส่เจลาติน)

ขนมสาลี่ (สูตรคุณรัชกฤช)

ขนมสาลี่ (สูตรคุณรัชกฤช)
เตรียมซึ้ง เติมน้ำ ¾ ของซึ้ง เปิดไฟให้น้ำเดือด รอไว้ก่อน

ส่วนผสมขนมสาลี่ (สูตรคุณรัชกฤช)

1. แป้งเค้ก 220 กรัม
2. ผงฟู 1 ช้อนชา
3. น้ำตาลทรายละเอียด 300 กรัม
4. SP เอสพี 15 กรัม
5. ไข่ไก่เบอร์ 2 จำนวน 5 ฟอง
6. น้ำสะอาด (แช่เย็น) 125 กรัม
7. กลิ่นมะลิ ¼ ช้อนชา
8. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

วิธีทำขนมสาลี่ (สูตรคุณรัชกฤช)

1. นำแป้งและผงฟูผสมกัน ใช้พายคนส่วนผสมให้ทั่ว แล้วร่อน 2-3 ครั้ง
2. เทแป้งที่ร่อนกับผงฟู , น้ำตาลทรายละเอียด , SP เอสพี , ไข่ไก่ , น้ำเย็น และกลิ่นมะลิ ลงในโถผสมแป้ง ใช้หัวตีตะกร้อคนให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วตีด้วยความเร็วต่อไปนี้
  • ตีด้วยความเร็วต่ำ 1 นาที
  • เร่งสปีดเป็นความเร็วสูง ตีต่อประมาณ 5 นาที
  • แล้วลดความเร็วต่ำอีก 3 นาที ช่วงความเร็วต่ำ 3 นาทีนี้ ให้เติมน้ำมะนาวลงไป
3. หยอดใส่ภาชนะขนมให้เกือบเต็มภาชนะ นำไปนึ่งจนกว่าจะสุกด้วยไฟกลาง (เวลาไม่ตายตัวอยู่ที่ภาชนะที่ใช้นึ่ง)
4. เมื่อขนมสุก นำออกมาตกแต่งด้วยลูกเกดให้สวยงาม

***ปัญหาของความไม่สำเร็จ***

1. เครื่องผสมแป้งแรงน้อยเกินไป
2. ไฟที่นึ่งต้องสมดุลกับซึ้งด้วย
3. ตรงกลางซึ้ง น้ำจะหยด ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ตรงกลาง
4. ต้องกะปริมาณของน้ำในซึ้งให้มีประมาณ ¾ ของซึ้ง

วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560

ชิฟฟ่อนใบเตยหน้าตะโก้มะพร้าว (สูตรคุณรัชกฤช)

ชิฟฟ่อนใบเตยหน้าตะโก้มะพร้าว (สูตรคุณรัชกฤช)

ชิฟฟ่อนใบเตย

ส่วนผสมที่ 1

1. แป้งเค้ก 90 กรัม
2. ผงฟู 1/2 ช้อนชา

ร่อนส่วนผสมที่ 1 พักไว้

ส่วนผสมที่ 2

1. น้ำตาลทราย (1) 50 กรัม
2. นมข้นจืด 33 กรัม
3. น้ำมันรำข้าว 33 กรัม
4. น้ำใบเตย 24 กรัม
5. เกลือเล็กน้อย
6. ไข่แดงเบอร์ 2 จำนวน 3 ฟอง
7. วานิลลา 1 ช้อนชา

ส่วนผสมที่ 3

1. ไข่ขาว 3 ฟอง
2. น้ำตาลทราย (2) 50 กรัม
3. ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำชิฟฟ่อนใบเตย

1. เทไข่แดงลงในอ่างผสม เติมน้ำตาลทรายเกลือใช้ตะกร้อมือคนจนไข่แดงสีจางลง เติมนมข้นจืด น้ำใบเตย และน้ำมันคนจนเข้ากัน เติมส่วนผสมที่ 1 ลงไป คนจนแป้งไม่เป็นเม็ด เติมวานิลลา (ส่วนผสมนี้ให้เรียกว่า A)
2. นำน้ำตาลทราย (2) ผสมกับครีมออฟทาร์ทาร์
3. ตีไข่ขาวด้วยความเร็วสูงจนเป็นฟองหยาบเทใส่ข้อ 2 ลงไปจนหมด และตีต่อจนไข่ขาวตั้งยอดกลางไปทางแข็ง
4. แบ่งส่วนผสมข้อ 3 เป็น 3 ส่วน ใส่ลงไปในส่วนผสม A ใช้พายตะล่อมจนเป็นเนื้อเดียวกัน
5. เทส่วนผสมลงในพิมพ์ 2 ปอนด์ อบไฟ 180 องศาเซลเซียส บนล่าง จนสุกประมาณ 35-40 นาที
6. เมื่อสุกเอาออกจากเตากระแทก 1-2 ครั้ง วางบนตะแกรงพออุ่น เอาออกจากพิมพ์ ทิ้งให้เย็น

หน้าตะโก้มะพร้าว

ส่วนผสม 

1. น้ำตาลทราย 40 กรัม
2. แป้งกวนไส้ 30 กรัม
3. น้ำมะพร้าว 100 กรัม
4. วิปปิ้งครีม 200 กรัม
5. เนยสด 20 กรัม
6. เจลลาติน 2 แผ่น (แช่น้ำเย็นจนนิ่ม)
7. เหล้ามะพร้าว (malibu) ไม่มีไม่ใส่ก็ได้
8. เนื้อมะพร้าวอ่อนตามใจชอบ

วิธีทำ 

1. น้ำตาลทราย แป้งกวนไส้ น้ำมะพร้าว เนื้อมะพร้าว วิปปิ้งตรีมขึ้นไฟปานกลาง
2. ใช้ตะกร้อมือกวนจนเดือด ยกลงจากเตา ใส่เจลลาตินที่นิ่มลงไปคนจนละลาย
3. เติมเนยสดและเหล้ามะพร้าวคนจนเข้ากัน

วิธีประกอบตัวเค้ก

1. นำที่คาดเค้กพันเค้กให้รอบและแน่น
2. ราดตะโก้มะพร้าวลงบนหน้าเค้ก ทิ้งให้เย็นและแช่ตู้เย็น 3-4 ชั่วโมง ค่อยตัด

หมายเหตุ : อาจจะทำใส่ถ้วยฟรอยก็ได้ตามใจชอบ

ทาร์ตไข่แบบ KFC (สูตรคุณมิกิ โอโยชิ)

ทาร์ตไข่แบบ KFC (สูตรคุณมิกิ โอโยชิ)

ส่วนผสมทาร์ตไข่แบบ KFC (สูตรคุณมิกิ โอโยชิ)

1. ไข่ไก่เบอร์ 2 จำนวน 4 ฟอง (ใช้แต่ไข่แดงอย่างเดียว)
2. นมสดจืด 110 กรัม
3. วิปครีม ตรา Millac Gold 200 กรัม
4. น้ำตาล 70 กรัม
5. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
6. เกลือหยิบมือ
7. แป้งทาร์ตสำเร็จรูปแช่แข็ง

วิธีทำทาร์ตไข่แบบ KFC (สูตรคุณมิกิ โอโยชิ)

1. ใส่น้ำตาลลงไปในชามผสม ใส่ไข่แดงและเกลือลงไปคนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน
2. ใส่นมสดจืด วิปครีม และกลิ่นวานิลลาลงผสมให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย
3. แล้วกรองส่วนผสมด้วยกระชอน 1 รอบ ให้ได้ส่วนผสมที่มีเนื้อเนียน ระหว่างทำอย่าลืมวอร์มเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส
4. นำแป้งทาร์ตสำเร็จรูปแช่แข็งออกมาวางบนถาดดำ แล้วตักส่วนผสมใส่ลงไปบนตัวทาร์ตประมาณ 3/4 ของตัวทาร์ต นำเข้าอบด้วยไฟบนล่าง อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 20 - 25 นาที ก็จะออกมาหน้าเหลืองสวยน่ารับประทานค่ะ

ข้าวหลามหม้อแกงไข่

ข้าวหลามหม้อแกงไข่ (สูตรคุณแอดมินสาว)

ส่วนผสมข้าวหลาม

1. ข้าวเหนียวขาว 200 กรัม แช่น้ำให้นิ่ม
2. น้ำกะทิ 250 กรัม
3. น้ำตาลทราย 130 กรัม (เพิ่มลดได้)
4. เกลือ 1/2 ช้อนชา
5. ถั่วดำต้มสุกตามชอบ

วิธีทำข้าวหลาม

1. ผสมน้ำกะทิ + น้ำตาลทราย + เกลือ ให้เข้ากัน
2. เอาข้าวเหนียวกับถั่วดำเทใส่ถาดคลุกให้เข้ากัน
3. ใส่น้ำกะทิลงไปในท่วมข้าวเหนียว เกลี่ยให้ทั่วๆ นำไปอบด้วยไฟ 180 องศา 40 นาที

ส่วนผสมหม้อแกงไข่

1. แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
2. กะทิ 250 กรัม
3. ไข่ไก่ 2 ฟอง ไข่เป็ด 5 ฟอง
4. น้ำตาลปี๊บ 320 กรัม
5. เกลือ 2 หยิบมือ
6. ใบเตย 4-5ใบ หรือใบตะไคร้
7. หอมแดงเจียวตามชอบ

วิธีทำหม้อแกงไข่

1. นำไข่กับน้ำตาลปี๊บใส่ลงอ่างผสม ใส่ใบเตย/ใบตะไคร้ ลงไปขยำจนน้ำตาลละลายและส่วนผสมเข้ากันดี
2. เติมแป้งข้าวเจ้า กะทิ ลงไปขยำให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นนำไปกรองด้วยกระชอน เติมน้ำมันหอมเจียวประมาณ 2 ช้อน จะทำให้หอมขึ้นค่ะ
3. นำส่วนผสมที่ได้ใส่กระทะกวนพอส่วนผสมข้น ยกลง
4. เทใส่หน้าข้าวเหนียวที่อบไว้ อบไฟล่าง 180 องศา 20-25 นาที แล้วแต่ขนาดพิมพ์ นำออกทามาหน้าขนมด้วยน้ำมันหอมเจียว และนำไปอบไฟบนอีก 5 นาที ใช้ไฟ 190 องศา
5. เมื่อขนมสุกแล้ว ให้นำออกมาพักให้เย็นก่อนโรยหอมเจียว

หมายเหตุ
1. สูตรนี้พอดีกับถาดขนาด 8*8 นิ้ว
2. ส่วนสังขยา ใครไม่ชอบหวานให้ลดน้ำตาลลงอีกได้
3. ในข้าวหลามจะใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน เผือก แปะก๋วย หรืออื่นๆก็ได้ตามใจชอบ
4. ถ้าอยากได้ข้าวเหนียวดำ ให้ใช้ข้าวเหนียวขาวครึ่งหนึ่ง ข้าวเหนียวดำครึ่งหนึ่ง แช่น้ำแยกกัน ข้าวเหนียวดำต้องแช่นานกว่า เพราะจะแข็งกว่า ตอนทำค่อยเอามาผสมกันคลุกเคล้าให้เข้ากัน เราจะไม่ใช้ข้าวเหนียวดำล้วนๆ เพราะมันจะแข็ง ดังนั้นต้องผสมกับข้าวเหนียวขาวค่ะ
5. วิธีเจียวหอมให้เหลืองกรอบ ซอยหอมบางๆ ผึ่งให้แห้งๆสักหน่อย จากนั้นนำใส่กล่องที่มีฝาปิด ใส่น้ำส้มสายชูไปนิดหน่อย โรยแป้งข้าวโพดลงไปบางๆ ปิดฝาเขย่าๆให้มันคลุกเคล้าเคลือบกันทั้งหมด ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟพอร้อน ใส่หอมลงไปเจียว คนเป็นระยะๆ พอหอมเริ่มเหลือง ให้รีบตักขึ้นใส่กระชอน ความร้อนที่ยังเหลืออยู่ จะทำให้หอมเหลืองขึ้นอีก และกรอบ อย่าเจียวหอมจนเหลืองเข้มแล้วค่อยตักขึ้น เพราะจะทำให้หอมไหม้และมีรสขม
6. ให้ดูเตาไฟของตัวเองด้วย เพราะเตาแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน ให้ปรับใช้ให้เหมาะสมค่ะ
7. ขนมต้องรอให้เย็นก่อน ค่อยโรยหอมเจียว ไม่อย่างนั้นความร้อนจะทำให้หอมเจียวไม่กรอบ


ขนมปังชาไทยไส้ทะลัก สังขยาชาไทย (สูตรคุณรัชกฤช)

ขนมปังชาไทยไส้ทะลัก สังขยาชาไทย (สูตรคุณรัชกฤช) 

ข้อควรปฏิบัติ

1. อ่านสูตรให้จบ ดูวิธีการทำให้เข้าใจ จะรู้ว่าขนมปังทำไม่ยากเลย
2. ถ้านวดมือให้ใช้เพียง ¼ สูตร ทุกอย่างต้องลดเหลือ ¼ เท่านั้น
3. ส่วนผสมต้องทำตามสูตรอย่างเคร่งครัดเพื่อความสำเร็จ

ส่วนผสมตัวขนมปัง

1. แป้งทำขนมปัง 1,000 กรัม
2. ยีสต์ 15 กรัม
3. น้ำตาลทราย 200 กรัม
4. เกลือ 10 กรัม
5. น้ำเย็น (แช่ตู้เย็นหรือแช่น้ำแข็ง) 400 กรัม
6. ไข่ไก่ 2 ฟอง
7. นอนแดรี่ ครีมเมอร์ 100 กรัม
8. เนยสด 120 กรัม

วิธีทำตัวขนมปัง

1. เทแป้งขนมปังกับยีสต์ในเครื่องนวดแป้ง เปิดเครื่อง 1 นาที เพื่อให้ยีสต์ตื่นจากความเย็น (ยีสต์หลังจากแกะห่อควรแช่ตู้เย็น)
2. ผสมน้ำเย็น น้ำตาลทราย เกลือ นอนแดรี่ ครีมเมอร์ และไข่ไก่ ใช้ตะกร้อมือคนจนน้ำตาลและเกลือละลาย
3. นำส่วนที่ 2 เทลงในส่วนผสมที่ 1 เปิดเครื่องนวดจนแป้งดูดน้ำจนหมด สังเกตจากแป้งจะเป็นก้อนและไม่มีเศษแป้งขาวๆ จึงเติมเนยสด (ถึงขั้นตอนนี้นวดต่ออีก 18 – 20 นาที) จนแป้งเนียน
4. การเช็คแป้งว่าเนียนได้ที่แล้วหรือยัง ตัดแป้งมาสักก้อนเล็กๆ ขยายแป้งโดยใช้นิ้วขึงและแป้งจะเป็นแผ่นฟิล์มบางๆ แสดงว่าใช้ได้แล้ว
5. นำแป้งออกจากเครื่อง ตัดน้ำหนักแป้ง 40 กรัม คลึงกลมวางเรียงในถาดทรงสูงให้ได้ระยะเท่าๆกัน
6. พักแป้งประมาณ 2 ชั่วโมง โดยใช้แผ่นพลาสติกคลุมเพื่อให้ขนมขึ้น (ขนมปังจะขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีความชื้นและอุณหภูมิที่พอเหมาะ) พักไว้จนแป้งขึ้นเป็น 2 เท่า แล้วนำเข้าตู้อบ
7. อบในอุณหภูมิ 180 °C ไฟบนและไฟล่าง ประมาณ 20 นาที สังเกตจากกลิ่นที่หอม นำออกมาก่อน และขนมจะเริ่มเป็นสีเหลือง สวย
8. นำออกจากตู้อบแล้ว มาวางบนตะแกรง เพื่อคลายร้อน (ห้ามใช้พัดลมเป่า) และรอเตรียมรอใส่ไส้

ส่วนผสมไส้ชาไทย

1. น้ำเดือด 1,000 กรัม
2. ชาไทยตรามือ 80 กรัม
3. น้ำตาลทราย 180 กรัม
4. เกลือ ½ ช้อนชา
5. น้ำเปล่า 200 กรัม
6. แป้งกวนไส้ 120 กรัม
7. นอนแดรี่ ครีมเมอร์ 400 กรัม

วิธีทำไส้ชาไทย

1. นำน้ำเดือดผสมกับชาไทยใช้ช้อนกดให้ชาจม อย่าคนเพราะจะทำให้รสชาติของชาฝาดได้ แช่ประมาณ 1-2 นาที อย่านานเดี๋ยวจะเข้มข้นเกินไป กรองด้วยผ้าแล้วชั่งน้ำหนักน้ำชาไทยให้ได้ 600 กรัม
2. นำน้ำชาไทยที่ชั่งได้ 600 กรัม มาผสมกับน้ำตาลทรายและเกลือ คนจนน้ำตาลและเกลือละลาย
3. ผสมน้ำเปล่า แป้งกวนไส้ และ นอนแดรี่ ครีมเมอร์ พักไว้
4. นำส่วนผสมข้อที่ 2 ตั้งไฟปานกลางจนใกล้เดือด จึงเติมส่วนผสมข้อที่ 3 ลงไป กวนต่อจนส่วนผสมเดือด ลักษณะที่ได้จะข้นเล็กน้อย แล้วยกลงจากเตาทิ้งให้อุ่น

วิธีใส่ไส้ขนมปัง

1. ใช้ตะเกียบเจาะรูด้านบนขนมปัง
2. ใช้หัวบีบเบอร์ 18 ใส่กรวยพลาสติก ตักไส้ใส่ประมาณ 2 ทัพพี แล้วบีบไส้ลงไปในรูด้านบนพอประมาณ กะเอาสูตรนี้แป้งกับไส้จะพอดี

สูตรดัดแปลง (เนื้อขนมปัง)

1. เนื้อขนมปังตัวนี้อร่อยมาก สามารถมาใส่ไส้อย่างอื่นและขึ้นรูปต่างๆได้มากมาย ทั้งไส้หวานและคาว
2. เนื้อขนมปังตัวนี้สามารถทำขนมปังเนยสดได้ หารูปแบบเอาเองครับ

สูตรดัดแปลง (ไส้ชาเขียว)

- เหมือนไส้ชาไทย แต่เปลี่ยนเป็นชาเขียวตรามือ 40 กรัม แทนครับ

สูตรดัดแปลง (ไส้ช็อกโกแลต)
- น้ำ 600 กรัม ผงโกโก้ 80 กรัม น้ำตาล , เกลือ เท่าเดิม ตั้งไฟจนใกล้เดือด แล้วเทส่วนผสม น้ำ 200 กรัม , แป้งกวนไส้ 120 กรัม , นอนแดรี่ ครีมเมอร์ 400 กรัม กวนจนเดือด ยกลงจากเตาแล้วเติมเนยสด 100 กรัม , กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา ลงไปแล้วคนต่อ
ขับเคลื่อนโดย Blogger.