วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ขนมจีนน้ำพริก

ขนมจีนน้ำพริก
รสชาติออกหวานนำเปรี้ยวกลมกล่อม แต่ไม่ได้หมายถึงจะต้องหวานปรี๊ดขึ้นมาโดดๆเลยนะคะ วิธีทำขนมจีนน้ำพริกอาจดูยุ่งนิดหน่อย แต่รับรองอร่อยแน่นอน

ส่วนผสมตัวน้ำพริก

1. กระเทียมไทยปอกเปลือก 1/4 ถ้วยตวง
2. หัวหอมแดงซอยหยาบๆ 1/4 ถ้วยตวง
3. ข่าซอยประมาณ 3-4 แว่น
4. รากผักชี
5. ถั่วลิสงคั่วให้หอม ต้มให้เปื่อย พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ 1/2 ถ้วย
6. ถั่วทอง (ถั่วเขียวเลาะเปลือก คั่วให้หอมแล้ว ต้มให้เปื่อยเช่นกัน) 1/2 ถ้วย
7. กุ้งต้ม 500 กรัม

ส่วนผสมน้ำกะทิและน้ำปรุงรส

1. หัวกะทิ 1 กิโลกรัม (ถ้าใช้กะทิกล่อง ใช้กล่องใหญ่สุด 1 กล่อง)
2. น้ำตาลปี๊ป
3. เกลือ
4. น้ำปลา
5. น้ำมะขามเปียก
6. น้ำมะกรูด
7. น้ำส้มซ่า
8. น้ำมะนาว

ส่วนผสมสำหรับโรยหน้าน้ำพริก

1. กระเทียมจีนกลีบใหญ่ ซอยบางๆ แล้วเอาไปเจียวให้กรอบ
2. หอมแดงซอยบางๆ แล้วเอาไปเจียวให้เหลืองกรอบ
3. ผักชีซอยหยาบๆ
4. น้ำมันพริก (ใช้น้ำมันที่ทอดหอมทอดกระเทียมประมาณ 1 ถ้วย เอาพริกแห้งประมาณ 20 เม็ด คั่วให้กรอบ เเกะเอาเม็ดออก โขลกให้หยาบๆ แล้วเอาไปผสมในน้ำมันร้อนๆ แล้วปิดไฟเลย พักไว้)

วิธีทำขนมจีนน้ำพริก

1. นำข่า กระเทียม หัวหอมมาคั่วไฟอ่อนๆในกระทะจนได้กลิ่นหอม ดูให้มันสุก แต่อย่าให้ไหม้
2. โขลกกุ้งต้มใส่ลงไปผสมให้เข้ากัน ตักมาใส่หม้อไว้
3. โขลกถั่วทั้งสองอย่างแยกกันไว้ (อย่าเพิ่งเอาไปผสมกัน)
4. นำน้ำตาลปี๊บประมาณ 2 ขีด น้ำมะขามเปียก น้ำตาล และเกลือมาละลายในกะละมังเตรียมไว้
5. นำกะทิใส่หม้ออีกใบ (ใส่ทั้งหัวกะทิทั้งหางกะทิรวมกันเลย) ตั้งไฟกลางจนเดือด จากนั้นใส่ส่วนผสมกุ้งกับน้ำพริกที่โขลกไว้ลงไปผสมในหม้อกะทิ ตอนนี้น้ำกะทิจะยังใสๆ ไม่ต้องตกใจนะ ให้ค่อยๆตักถั่วลิสงค์ลงไปครึ่งนึงก่อน ตามด้วยถั่วทองครึ่งนึง คนให้เข้ากัน ปล่อยให้เดือดแล้วหรี่ไฟ แล้วลองดูว่าน้ำพริกข้นหรือใสไปมั้ย ถ้ายังเหลวไปก็ค่อยๆ เติมถั่วทั้งสองไปเรื่อยๆ จนได้ความข้นที่ต้องการ
5. ใส่น้ำปรุงรสที่ละลายในกะละมังเอาไว้ ชิมรสตามชอบ ให้ออกหวานนำเปรี้ยวไว้ก่อน เค็มตามมา แต่อย่าเพิ่งให้เปรี้ยวมาก เพราะยังต้องใส่น้ำมะกรูด น้ำส้มซ่า และน้ำมะนาวอีก พอข้นได้ที่ ใส่เปลือกมะกรูดลงไปลอย แล้วยกลงจากเตา
6. ใส่น้ำมะกรูด มะนาว และส้มซ่า กรองเอาแต่น้ำมันพริกใส่ลงไปคนให้เข้ากัน ใส่หอมเจียว กระเทียมเจียว ผักชีโรยหน้า
7. ตักรับทานกับขนมจีน ไข่ต้ม ผักต้ม ผักชุบแป้งทอดตามชอบเลยค่ะ

เผือกหิมะ

เผือกหิมะ

ส่วนผสมและเครื่องปรุงเผือกหิมะ
 
1. เผือกหอม
2. น้ำตาลทราย
3. เกลือ
4. น้ำมันสำหรับทอด
5. ต้นหอมซอย

วิธีทำเผือกหิมะ
 
1. ปอกเปลือกเผือก ล้างให้สะอาด หั่นเผือกตามขวางหนาประมาณ 1 ซ.ม ยาว 5-6 ซ.ม
2. นำเผือกลงทอดในน้ำมันให้พอสุก ไม่ต้องให้กรอบ ตักขึ้นพักไว้
3. จากนั้นใส่น้ำเปล่า น้ำตาลทราย และเกลือลงกระทะ ตั้งไฟเคี่ยวไปเรื่อยๆจนงวด ใส่เผือกที่ทอดพักไว้คลุกเคล้าเบาๆ โรยหอมซอย ตักใส่จานเสิร์ฟรับประทานได้เลยค่ะ

แกงเทโพ

แกงเทโพ

ส่วนผสมแกงเทโพ

1. น้ำพริกแกงเผ็ด 100 กรัม
2. หมูสามชั้นหั่น 200 กรัม
3. กระดูกหมู 300 กรัม
4. ปลาเค็ม 250 กรัม
5. ผักบุ้งหั่นท่อนประมาณ 2 กำใหญ่
6. กะทิหัว 1 ถ้วย
7. หางกะทิ 2 ถ้วย
8. ใบมะกรูดตามชอบ
9. ลูกมะกรูด 1 ลูก
10. น้ำมะขามเปียก
11. น้ำตาลปี๊บ
12. เกลือ
13. น้ำปลา

วิธีทำแกงเทโพ

1. นำหางกะทิตั้งไฟ ใส่กระดูกหมูลงไปเคี่ยวให้เปื่อยพักไว้
2. แล้วแบ่งหัวกะทิตั้งไฟเคี่ยวให้แตกมัน ใส่น้ำพริกลงไปผัดให้หอม ใส่หมูสามชั้นลงไปผัดให้น้ำพริกเข้าเนื้อ ใส่ปลาเค็มตามลงไป
3. ตักกระดูกหมูที่เคี่ยวไว้ลงไป ค่อยๆเติมหางกะทิลงไปกะให้พอดี ปรุงรสตามชอบ
4. พอเดือดใส่ผักบุ้งลงไป (ก่อนใส่ใช้มือบีบผักบุ้งให้มีเสียงกอบแกบเพื่อให้น้ำแกงซึม) ต้มให้เดือดอีกครั้ง ใส่ใบมะกรูดและลูกมะกรูดผ่าซีกเอาเม็ดออกลงไป
5. สุดท้ายราดด้วยหัวกะทิที่เหลือพอเดือดปิดไฟยกลงจากเตา ตักใส่ชามเสิร์ฟทานกับข้าวสวยร้อนๆได้เลยค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ข้าวเหนียวปิ้งไส้เผือก

ข้าวเหนียวปิ้งมีหลายไส้ที่นิยมทาน แต่ที่คนชอบทานกันมากๆคงจะเป็นข้าวเหนียวปิ้งไส้กล้วยและข้าวเหนียวปิ้งไส้เผือก ถึงแม้จะมีหลายขั้นตอนในการทำแต่ก็ไม่ยุ่งยากซับซ้อน เป็นขนมที่ใช้เงินลงทุนน้อยวัสดุอุปกรณ์ไม่มากเหมาะสำหรับทำขายและเป็นอาชีพเสริมหรือทานเองที่บ้านก็ได้

ส่วนผสมและวิธีทำข้าวเหนียวปิ้งไส้เผือก

ส่วนผสมข้าวเหนียวมูน
1. ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 1 กก.
2. น้ำกะทิ 3 ถ้วยตวง
3. น้ำตาลทราย 300 กรัม
4. เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำข้าวเหนียวมูน
1. ล้างข้าวเหนียวแล้วแช่น้ำไว้ 1 คืน

2. นำไปนึ่งในรังนึ่งจนสุกใช้เวลาประมาณ 25 นาที

3. ระหว่างรอข้าวเหนียวสุก นำส่วนผสม กะทิ น้ำตาลทราย และเกลือป่นคนจนส่วนผสมละลายเตรียมไว้

4. นำข้าวเหนียวที่นึ่งสุกใส่ภาชนะมีฝาปิดเทส่วนผสมที่เตรียมไว้ลงไปมูลในข้าวเหนียวคนให้ส่วนผสมเข้ากันแล้วปิดฝาไว้เพื่อให้ข้าวดูดซึมน้ำกะทิ

ส่วนผสมไส้เผือก
1. เผือกนึ่งสุกบดละเอียด 500 กรัม
2. นมข้นจืด 1 ถ้วยตวง
3. น้ำตาลทราย 250 กรัม
4. เนยสด 30 กรัม
5. น้ำมันพืช 50 กรัม
6. เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำไส้เผือก
นำส่วนผสมทั้งหมดยกเว้นเนยสดใส่ในกระทะใช้ไฟกลางกวนจนส่วนผสมเหนียวไม่ติดกระทะใส่เนยสดกวนต่อแล้วปิดไฟพักไว้

วิธีห่อข้าวเหนียวปิ้ง
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
1. ใบตองสำหรับห่อขนม ฉีกให้มีขนาดตามที่ต้องการแล้วเช็ดให้สะอาด
2. ไม้กลัดหรือไม้จิ้มฟัน

วิธีห่อข้าวเหนียว
1. ใช้ใบตอง 2 แผ่นวางประกบกันให้สีเขียวอยู่ด้านนอก

2. ตักข้าวเหนียวมูลวางตามปริมาณที่ต้องการแล้วตักไส้เผือกใส่ตรงกลางปิดทับด้วยข้าวเหนียวมูล (หากทำไส้กล้วยก็ทำเช่นเดียวกัน)

3. ม้วนใบตองแล้วกลัดหัวท้ายด้วยไม้จิ้มฟัน ใช้กรรไกรตัดให้สวยงาม

4. นำไปปิ้งหรือย่างบนเตาถ่านใช่ไฟอ่อนจนสุกและมีกลิ่นหอม

ขนมถ้วยกะทิ

ขนมถ้วยกะทิเมนูขนมไทยรสชาติอร่อยที่ใครกินเป็นต้องติดใจ

ส่วนผสม (หน้าขนม)

1. แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
2. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
3. เกลือป่น 1 ช้อนชา
4. หัวกะทิ 2 ถ้วย

ส่วนผสม (ตัวขนม)


1. แป้งข้าวเจ้า 3/4 ถ้วย
2. น้ำตาลปี๊บ 230 กรัม
3. แป้งมันสำปะหลัง 1/4 ถ้วย
4. แป้งท้าวยายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำลอยดอกมะลิ 1 1/4 ถ้วย (หรือน้ำผสมกลิ่นมะลิ)
6. หัวกะทิ 1/2 ถ้วย
7. น้ำใบเตย 1/2 ถ้วย

อุปกรณ์เพิ่มเติม
1. ถ้วยขนมถ้วย (หรือถ้วยทนความร้อนสำหรับนึ่ง)
2. ชุดนึ่ง

วิธีทำ

1. เริ่มทำหน้าขนมถ้วยกะทิกันก่อน โดยผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย เกลือป่น หัวกะทิ และน้ำใบเตย เข้าด้วยกัน ใช้มือขยำส่วนผสมจนเข้ากันและไม่เป็นเม็ด จากนั้นนำไปกรองผ่านตะแกรง เตรียมไว้
2. ต่อมาทำตัวขนมต่อ โดยผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลปี๊บ แป้งมันสำปะหลัง แป้งท้าวยายม่อม น้ำลอยดอกมะลิ และหางกะทิเข้าด้วยกัน ใช้มือขยำส่วนผสมจนเข้ากันจนน้ำตาลปี๊บละลายหมด จากนั้นนำไปกรองผ่านตะแกรง เตรียมไว้
3. จากนั้นนำถ้วยขนมไปนึ่งประมาณ 5 นาที (ป้องกันไม่ให้ขนมติดถ้วย)
4. เทส่วนผสมตัวขนมลงไปในถ้วย (ให้เกินครึ่งถ้วยเล็กน้อย) จากนั้นปิดฝานึ่งประมาณ 5 นาที พอครบเวลา ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที
5. เทส่วนผสมหน้ากะทิลงไปจนเต็มถ้วย นำไปนึ่งต่ออีกประมาณ 6-7 นาทีจนขนมสุก ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็นประมาณ 10 นาที
6. ค่อยๆใช้ไม้พายหรือไม้ไศกรีมแช่น้ำแคะขนมออกจากถ้วย จัดใส่จานเสิร์ฟรับประทานได้เลยค่ะ

ปลากริมไข่เต่า

ปลากริมไข่เต่าสูตรเด็ดรสชาติหวานเค็มอร่อย ที่ขอบอกเลยว่าพลาดแล้วจะเสียใจ

ส่วนผสมปลากริมไข่เต่า

1. แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
2. แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
3. แป้งมัน 1/2 ถ้วย
4. น้ำร้อนเดือด 1 ถ้วย
5. มะพร้าวขูดขาว 500 กรัม
6. น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
7. น้ำตาลปีบ 1/2 ถ้วย
8. เกลือป่น 1 ช้อนชา
9. น้ำดอกไม้สด 3 ถ้วย (น้ำดอกไม้สด คือ นำดอกไม้สดมาลอยไว้ 1 คืน ก่อนนำน้ำนั้นมาใช้ โดยเอาดอกไม้สดทิ้งไป เช่น ดอกมะลิ ดอกกุหลาบ ฯลฯ ทั้งนี้เราต้องทราบก่อนว่าดอกไม้แต่ละชนิดบานช่วงเวลาไหน ต้องเก็บเวลาที่ดอกไม้ที่เราต้องการมาลอยน้ำบานคะ กลิ่นจะได้หอมๆ กรณีไม่มีดอกไม้ ใช้น้ำเปล่าธรรมดาแทนคะ หรือจะใช้กลิ่นมะลิ กลิ่นใบเตยมาทดแทนตามแต่จะหาได้ค่ะ)

วิธีทำปลากริมไข่เต่า

1. นำแป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน รวมกัน เทน้ำเดือดลงไปใช้พายคนให้เข้ากัน นวดจนแป้งมีลักษณะเหนียวนุ่มมือ หมักไว้ก่อนประมาณครึ่งชั่วโมง

2. ระหว่างหมักแป้ง เตรียมกะทิ โดยคั้นมะพร้าวด้วยน้ำดอกไม้สดแบ่งคั้นสองครั้งให้ได้กะทิ 4 ถ้วย

3. เตรียมหม้อสองหม้อเพื่อทำกะทิเตรียมไว้ก่อน โดยหม้อแรกจะทำกะทิส่วนขนมปลากริม โดยผสมกะทิเกลือและน้ำตาล ตั้งไฟพอเดือด พักไว้ หม้อที่สองทำส่วนกะทิของขนมไข่เต่า โดยนำกะทิน้ำตาลปีบ ตั้งไฟให้เดือด พักไว้

4. เมื่อหมักแป้งได้ที่แล้ว ก็นำแป้งแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกปั้นเป็นก้อนกลมๆ เป็นส่วนของไข่เต่า และปั้นเป็นยาวๆ รีๆ หัวท้ายแหลมๆ เป็นส่วนของปลากริม

5. นำแป้งที่ปั้นแล้ว ไปลวกในน้ำร้อนเดือดๆ สังเกตว่าถ้าแป้งที่นำไปลวกสุกแล้ว จะลอยขึ้นมา

6. ตักแป้งมาแช่ในน้ำเย็น

7. นำแป้งที่ลวกแล้วไปใส่ในหม้อกะทิปลากริม และหม้อกะทิไข่เต่า ตั้งไฟให้เดือด พอเดือดปิดไฟ

8. ตักขนมไข่เต่าครึ่งหนึ่งของถ้วย แล้วจึงตักปลากริมใส่ข้างบน เป็นอันเสร็จเรียบร้อยพร้อมเสิร์ฟค่ะ

สาคูแคนตาลูปนมสด

สาคูแคนตาลูปนมสดเมนูขนมหวานหอมเย็นชื่นใจที่กำลังเป็นที่นิยมในบ้านเราอยู่ในขณะนี้ ถึงขนาดหาทานได้ตามร้านอาหารและร้านขนมทั่วไป แต่ถ้าซื้อทานยังไม่จุใจ วันนี้เรามาทำสาคูแคนตาลูปนมสดทานเองที่บ้านกันดีกว่าค่ะ หรือทำทานแล้วอร่อยถูกใจจะทำขายต่อยอดออกไปก็ได้ค่ะ

ส่วนผสมสาคูแคนตาลูปนมสด

1. น้ำเปล่า 3/4 ถ้วย
2. น้ำตาลทราย 120 กรัม
3. ใบเตย
4. สาคูเม็ดเล็ก 1 ถ้วย
5. น้ำเปล่าสำหรับต้มสาคู
6. นมสด
7. แคนตาลูป

วิธีทำสาคูแคนตาลูปนมสด

1. ใช้ที่ตักแตงโม ตักแคนตาลูปเป็นลูกกลมๆแช่ตู้เย็นเตรียมไว้
2. จากนั้นหันมาทำน้ำเชื่อม โดยต้มน้ำกับใบเตยให้หอมก่อน แล้วจึงใส่น้ำตาลทรายลงไปเคี่ยวพอข้น
3. ต้มน้ำเปล่าให้เดือดจัด ใส่สาคูที่ล้างผ่านน้ำแล้ว ต้มให้สุก 90% เหลือเป็นตากบเล็กๆ
4. ปิดไฟ ยกลงจากเตา เทสาคูใส่กระชอนแล้วล้างน้ำเพื่อหยุดความสุก และแช่ในน้ำเย็น
5. ตักสาคูเย็นสนิทขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ เทใส่ในน้ำเชื่อม นำแช่ตู้เย็น
6. ส่วนนมสดนำไปแช่เย็นจนเป็นเกล็ดน้ำแข็งแล้วตักใส่ถ้วย
7. ได้เวลาเสิร์ฟรับประทาน ตักสาคู น้ำเชื่อม แคนตาลูป ชิมรสหวานตามชอบ ตักเกล็ดน้ำแข็งตามลงไปกินตอนอากาศร้อนๆ หอมหวานเย็นชื่นใจค่ะ

วุ้นกะทิใบเตย

สูตรการทำวุ้นกะทิใบเตยสูตรนี้ขอบอกว่าทำตามกันได้ง่ายมากๆ จะทำกินเองหรือจะทำขายหารายได้ก็ได้นะคะ

ส่วนผสมหน้าวุ้นกะทิ

1. น้ำเปล่า 2 ถ้วย
2. น้ำกะทิ 1 1/2 ถ้วย
3. ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
4. เกลือ 1 ช้อนชา
5. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย (ถ้าไม่ชอบหวานให้ตักออก 2 ช้อนโต๊ะค่ะ)

วิธีทำ

ผสมน้ำกับวุ้นเข้าด้วยกัน นำไปตั้งไฟด้วยความร้อนปานกลาง เคี่ยววุ้นให้ละลาย ใส่น้ำตาลและเกลือ เคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อนๆ 10 นาที แล้วเติมกะทิ เคี่ยวต่ออีก 5 นาที ปิดไฟ ยกลง แล้วนำไปหล่อในน้ำร้อนเพื่อเตรียมไว้สำหรับหยอดหน้า

ส่วนผสมตัววุ้นน้ำมะพร้าว / น้ำใบเตย

1. น้ำเปล่า 5 ถ้วย
2. น้ำใบเตย / น้ำมะพร้าว 2 ถ้วย
3. ผงวุ้น 2 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วย (ถ้าไม่ชอบหวานให้ตักออก 2 ช้อนโต๊ะ)

วิธีทำ

1. ผสมน้ำเปล่ากับวุ้นเข้าด้วยกัน นำไปตั้งไฟ ความร้อนปานกลาง เคี่ยววุ้นให้ละลาย
2. ใส่น้ำตาล เคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อน ๆ 10 นาที แล้วเติมน้ำใบเตย เคี่ยวต่ออีก 5 นาที ปิดไฟ ยกลง
3. นำไปหยอดใส่พิมพ์ เหลือขอบพอประมาณ
4. หยอดหน้าวุ้นกะทิ ตามลงส่วนบนเพื่อให้วุ้นเชื่อมติดกัน
5. เมื่อวุ้นแข็งตัว จึงแกะออกจากพิมพ์ รับประทานได้

โดนัทจิ๋ว

โดนัทจิ๋วที่เรานำมาฝากในวันนี้รับรองอร่อย ทำแล้วถูกใจเด็กๆแน่นอน ไม่ว่าจะทำทานเองที่บ้านหรือจะทำขายสร้างรายได้ให้ครอบครัวก็สามารถทำได้นะคะ

ส่วนผสมโดนัทจิ๋ว

1. แป้งพัดโบก 200 กรัม (ถ้าไม่มีเอาแป้งสาสีเอนกประสงค์ได้ค่ะ)
2. เกลือ 1/4 ช้อนชา
3. ผงฟู 1 ช้อนชา
4. ไข่ไก่ 2 ฟอง
5. น้ำตาลทรายเม็ดเล็ก 150 กรัม
6. เนยหรือมาการีน 150 กรัม
7. นมสด 2/3 ถ้วย (นมตราเหยี่ยว)
8. วานิลลา 1 ช้อนชา

วิธีทำโดนัทจิ๋ว

1. ร่อนแป้ง + ผงฟู + เกลือเตรียมไว้ จากนั้นตอกไข่ไก่ใส่ลงในอ่างผสม คนด้วยตะกร้อมือให้พอไข่แตก แล้วค่อยๆใส่น้ำตาลทรายทีละนิด ระหว่างเทก็ให้คนไปด้วยนะคะ คนจนน้ำตาลทรายขึ้นฟูเปลี่ยนสี จึงใส่เนยละลายแล้วลงไป (ถ้าขี้เกียจคนให้เนยละลายก็เลยใส่ไปเป็นก้อนอย่างนั้นเลยค่ะ) คนจนเนยละลายดี แล้วใส่นมสดตามลงไปค่ะ

2. ใส่วานิลลาลงไป เสร็จแล้วใส่แป้งที่ร่อนผสมผงฟูและเกลือลงไปค่ะ ตอนเทลงไปใหม่ๆ อาจตกใจว่าทำไมแป้งเป็นก้อนเนื้อไม่เนียน แต่พอคนไปได้สักพัก เนื้อแป้งก็เนียนสวยค่ะ
เสร็จแล้วตักหยอดในพิมพ์ ประมาณครึ่งพิมพ์ค่ะ ถ้าอยากได้หน้าอะไรก็ใส่ลงไปได้ค่ะ แต่บางสูตร
ให้ใส่ทีหลัง แต่เห็นว่ายุ่งยากค่ะ เพราะเราจะกะเวลาไม่ค่อยเป็น จนบางทีขนมสุกก่อนยังไม่ได้หยอดแต่งหน้าเลยค่ะ หยอดเสร็จปิดพิมพ์ไว้ประมาณ 1 นาที 30 วินาทีค่ะ หรือเราค่อยเปิดแง้มดูก็ได้ค่ะ
ให้พอเหลืองสวย ใช้ไม้จิ้มฟัน จับพลิกลงอีกด้านหนึ่ง หลังจากกลับเสร็จ ก็นับ 1-10 แล้วก็จิ้มออกมาได้ค่ะ

3. แต่งหน้าโดนัทจิ๋วด้วยหน้างาขาว งาดำ ลูกเกด เมล็ดฝักทอง แต่ที่สวยที่สุดก็จะเป็นหน้าผลไม้เชื่อมสีเขียวสีแดงค่ะ เสร็จแล้วก็เสิร์ฟทานกันร้อนๆได้เลยค่ะ

ขนมรังผึ้ง

สูตรขนมรังผึ้งแบบดั้งเดิมจะไม่มีไส้ ตัวแป้งจะมีรสชาติหวานกลมกล่อมและมีกลิ่นหอม ปัจจุบันมีการดัดแปลงสูตรขนมรังผึ้งให้มีความน่าสนใจและน่าทานยิ่งขึ้น โดยการทำไส้ต่างๆใส่ลงไป เช่น ไส้ข้าวโพด หรือไส้ลูกเกด ทำให้เป็นขนมที่เด็กๆชอบทาน

ส่วนผสมและวิธีทำขนมรังผึ้ง

1. ไข่ไก่ 6 ฟอง
2. แป้งสาลี 2 ½ ถ้วยตวง
3. นมสด 2 ถ้วย
4. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
5. ผงฟู 3 ช้อนชา
6. เกลือป่น ½ ช้อนชา
7. เนยสด 1 ช้อนชา
8. ไส้ต่างๆตามชอบ เช่น ข้าวโพด ลูกเกด ฝอยทอง

วิธีทำขนมรังผึ้ง

1. นำแป้งสาลี ผงฟู และเกลือป่นผสมเข้าด้วยกัน แล้วนำไปร่อน 3 ครั้งเพื่อให้แป้งเบาตัว

2. ตอกไข่ใส่ภาชนะ พร้อมน้ำตาลทรายและเนยสด ตีส่วนผสมเข้ากันจนเป็นเนื้อครีม จากนั้นใส่นมสดลงไปคนให้เข้ากัน

3. ค่อยๆใส่แป้งที่ร่อนไว้ลงไปคนเบาๆให้เป็นเนื้อเดียวกันจนแป้งหมด เทไส้ที่เราเตรียมไว้ลงไปคนเบาๆให้เข้ากันอีกครั้ง

4. ทาเนยหรือน้ำมันที่พิมพ์ แล้ววอร์มพิมพ์โดยนำไปตั้งไฟ

5. เมื่อพิมพ์เริ่มร้อนดีแล้วตักส่วนผสมที่ทำไว้ใส่ลงในพิมพ์แล้วปิดฝาประมาณ 3 นาที ขนมก็จะสุกและส่งกลิ่นหอมน่าทาน จัดเสิร์ฟใส่จานรับประทานกันได้เลยค่ะ

ทองม้วนสด

ทองม้วนสดสูตรชาววังอร่อยมีส่วนผสมและวิธีการทำง่ายๆ ดังนี้




ส่วนผสม

1. แป้งสาลีร่อนแล้ว 1 กิโลกรัม
2. มะพร้าวขูดขาว 1 กิโลกรัม
3. ไข่ไก่ 10 ฟอง
4. งาดำหรืองานขาวคั่วแล้ว 1/2 ถ้วย
5. น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม
6. เกลือป่น 1 ช้อนชา
7. น้ำปูนใส 1+ 1/4 ถ้วย
8. น้ำสะอาด 1/2 ถ้วย
9. น้ำมันสำหรับทาพิมพ์ทองม้วน 1 ถ้วย
10. น้ำใบเตยสดจำนวน 2 ช้อนโต๊ะ (สีเขียวใบเตยเล็กน้อย)
 
วิธีการทำทองม้วนสด

1. คั้นมะพร้าวด้วยน้ำอุ่น 3 ถ้วย เพื่อให้ได้หัวกะทิ 5 ถ้วย

2. ผสมแป้งสาลีกับน้ำตาลเข้าด้วยกันในอ่างผสม

3. ต่อยไข่ไก่ใส่ชาม ตีให้เข้ากัน ใส่หัวกะทิ เกลือ น้ำปูนใส และน้ำสะอาดลงคนให้เข้ากัน (หรือถ้าไม่ต้องการใส่น้ำสะอาด ก็เทน้ำใบเตยลงไป จะได้สีเขียวออกมา คนไปเรื่อยๆจนน้ำใบเตยหมด)

4. ค่อยๆ เทส่วนผสมกะทิ ลงในส่วนผสมแป้งทีละน้อย คนให้เข้ากันดีไม่ต้องข้นมาก ใส่งาคั่วลงไปคนให้เข้ากัน

5. นำพิมพ์ทองม้วนมาเปิดไฟให้ร้อน ใช้ไฟอ่อน ทาน้ำมันให้ทั่วพิมพ์ทั้งสองด้าน ตักแป้งหยอดบนพิมพ์ด้านหนึ่ง บีบพิมพ์สักครู่ พอให้แผ่นมันแบนแค่พอให้แป้งสุกใสเท่านั้น ระวังอย่าให้เหลือง เปิดพิมพ์ และใส่มะพร้าวอ่อนตรงกลางลงไปตามความต้องการ แล้วทำการม้วนให้เป็นหลอด เป็นอันเสร็จ ก็จะได้ทองม้วนสดที่แสนจะอร่อย

ปาท่องโก๋

วิธีทำปาท่องโก๋ง่ายๆที่เรานำมาฝาก กับสูตรปาท่องโก๋ 2 สูตรเด็ดเคล็ดลับความอร่อยให้คุณทำขายหารายได้หรือจะทำทานที่บ้านก็ได้ค่ะ

ปาท่องโก๋สูตร 1 (แบบกรอบนอก นุ่มใน และกลวงเล็กน้อย)


ส่วนผสม

1. แป้งสาลีตราฮกแดง 1 กิโลกรัม
2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
3. เกลือ 4 ช้อนชา
4. น้ำ 3¾ – 4 ถ้วย
5. ยีสต์ 1 ช้อนชา
6. น้ำมันพืช 2 ช้อนชา
7. น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
8. แอมโมเนีย (เช้าก่า) 1 ช้อนโต๊ะ
9. ผงฟู 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ผสมยีสต์ ผงฟู และแป้งสาลีรวมกันแล้วพักไว้ จากนั้นละลายน้ำตาล เกลือ แอมโมเนียในน้ำสะอาด เติมน้ำมันพืชและไข่ไก่ลงผสมให้เข้ากันดี ใส่ส่วนผสมของเหลวลงในส่วนผสมแป้ง นวดให้เข้ากัน พักแป้งไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง
2. ตัดแป้งเป็นแท่งยาวๆ โรยแป้งนวลเพื่อไม่ให้ติดมือ ยืดแป้งออกให้เป็นแผ่นบางๆ หนาประมาณ ½ เซนติเมตร ตัดเป็นชิ้นยาวๆ ใช้ไม้จุ่มน้ำแตะตรงกลาง ประกบแป้งเข้าหากัน นำไปทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด

ปาท่องโก๋สูตร 2 (แบบนุ่ม มีเนื้อ เมื่อเย็นแล้วเนื้อนิ่มไม่เหนียว)

ส่วนผสม

1. แป้งสาลีตราฮกแดง 1 กิโลกรัม
2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
3. เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำ 3½ ถ้วย
5. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
6. ผงโซดาไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
8. แอมโมเนีย (เช้าก่า) ½ ช้อนชา
9. ผงฟู 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

ผสมโซดา ผงฟูและแป้ง รวมกันแล้วพักไว้ ละลายน้ำตาล เกลือ แอมโมเนีย ในน้ำ เติมน้ำมันพืช ไข่ไก่
คนให้เข้ากันดี ใส่ส่วนผสมของเหลวลงในส่วนผสมแป้ง นวดให้เข้ากัน
พักแป้งไว้ประมาณ 4-6 ชั่วโมง นำไปทอด
1. การนวดแป้ง จะไม่นวดนานเกินไป เพียงแค่นวดให้ส่วนผสมเข้ากันดีก็พอ
2. ควรละลายน้ำตาล แอมโมเนีย และเกลือในส่วนผสมที่เป็นน้ำก่อน แล้วคนให้ละลายจนหมด
จึงนำไปผสมในส่วนผสมที่เป็นของแห้ง จะทำให้ส่วนผสมเข้ากันได้เร็ว
3. อัตราส่วนระหว่างแป้งกับน้ำในแต่ละสูตรอาจจะมีการคลาดเคลื่อนบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับความเก่าใหม่ของแป้ง ถ้าเป็นแป้งเก่าอาจจะต้องเพิ่มน้ำบ้างเล็กน้อย
4. ควรมีการพักแป้งอย่างน้อย 3 – 4 ชั่วโมง ก่อนทอด ถ้าทอดเร็วเกินไป ปาท่องโก๋จะเนื้อแน่น
วิธีสังเกตง่ายๆ คือ สังเกตจากแป้งจะมีฟองอากาศมาก ก็สามารถนำมาทดลองทอดได้
5. ควรใช้น้ำมันปาล์มในการทอด และน้ำมันที่เหลือแต่ละครั้งควรนำมากรอง ด้วยผ้าขาวบางทุกครั้งก่อนที่จะนำมาทอดใหม่และควรเปลี่ยนน้ำมันที่ใช้ทอดบ่อยๆ ถ้าน้ำมันเก่ามากจะเกิดสารพิษในน้ำมัน ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
6. ความร้อนที่ใช้ทอดควรใช้ความร้อนปานกลาง ถ้าใช้ไฟแรงเกินไปจะทำให้ผิวของปาท่องโก๋ไม่สวย มีสีไม่สม่ำเสมอ และผิวนอกนิ่มไม่กรอบ
7. การตัดแป้ง ควรแผ่นแป้งให้หนาประมาณ ½ เซนติเมตร หากแป้งหนามากเกินไปจะทำให้แป้งเนื้อแน่น เวลาแตะน้ำติดตรงกลาง ประกบติดกัน ไม่ต้องบีบแป้งแน่น เพราะถ้าบีบแป้งแน่นเกินไป จะทำให้ตัวขนมไม่กางออกมาเวลาทอด
8. เวลาทอด เมื่อหย่อนแป้งลงในน้ำมัน พอแป้งลอยขึ้นมา ควรใช้ตะเกียบพลิกกลับไปกลับมา จะทำให้แป้งแห้งฟูและพองตัวดี ที่สำคัญอย่าใส่ปาท่องโก๋มากเกินไปในการทอดแต่ละครั้ง
9. เราสามารถตัดยีสต์ที่อยู่ในสูตรออกได้ ถ้าต้องการให้ขนมขึ้นช้าหรือกลัวทอดไม่ทันขาย แต่ต้องใช้เวลาในการหมักให้นานขึ้น และถ้าอยากให้ปาท่องโก๋มีรสชาติดีขึ้น ให้ให้เติมผงชูรสลงไปในสูตร 2-3 ช้อนชา

สาคูไส้หมู

สาคูไส้หมู สูตรไส้หมูนี้เป็นสูตรสำหรับคนที่หาหัวไชโป๊วยาก โดยดัดแปลงใช้หอมหัวใหญ่แทน แต่ก็ยังคงความอร่อยของสาคูไส้หมูเป็นได้อย่างดี เป็นสูตรสาคูไส้หมูที่นุ่มกำลังดี ไส้มีกลิ่นหอม อร่อย ทานคู่กับผักสดหรือพริกสดจะเพิ่มความอร่อยขึ้นไปอีก

ส่วนผสม

1. สาคูเม็ดเล็ก ครึ่งถุง
2. น้ำร้อน 1 ถ้วย
3. หมูบด 100 กรัม
4. ถั่วลิสงคั่วบด 100 กรัม
5. หอมหัวใหญ่ 1 หัว (อันนี้ใช้แทนหัวไชโป๊ว)
6. กระเทียม 1 หัว
7. รากผักชี (ไม่มีให้ใช้ผักชีซอยทั้งต้น)
8. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำตาลทรายแดง
10. น้ำปลา
11. ซีอิ๊วดำ
12. ซีอิ๊วขาว
13. ซอสแม็กกี้
14. พริกไทยป่น

วิธีทำ

- นวดสาคูด้วยน้ำร้อนพักไว้

- นำกระเทียบมาสับให้ละเอียด แล้วเจียวจนมีสีเหลืองนวลและมีกลิ่นหอม พักไว้

- เริ่มวิธีทำไส้ ผัดหอมหัวใหญ่ กระเทียม และรากผักชีโขลกละเอียดรวมกันพอสุก ใส่หมูบดและใส่เครื่องปรุงทุกอย่างตามลงไปผัดให้เข้ากัน

- เมื่อหมูสุกใส่ผักชีตามลงไป (สำหรับใครที่ใส่รากผักชีแล้วไม่ต้องใส่ผักชีค่ะ)

- สุดท้ายใส่ถั่วลิสงคั่วป่น ผัดต่อจนแห้งดี

- มาถึงวิธีการห่อไส้สาคู วางสาคูลงบนอุ้งมือแล้วตามด้วยไส้แล้วค่อยๆจับจีบ แล้วปั้นให้เป็นก้อนกลมๆ

- ขั้นตอนการนึ่ง ให้วางผ้าขาวบางบนลังถึง แล้ววางสาคูตามลงไป เว้นระยะสาคูสักเล็กน้อย เพราะเวลานึ่งสาคูจะใหญ่ขึ้น ใช้เวลานึ่งประมาณ 8-10 นาที

- เสร็จแล้วจัดใส่จาน โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว พร้อมเสิร์ฟทานคู่กับผักสดและพริกขี้หนูแล้วค่ะ
ขับเคลื่อนโดย Blogger.